BREAKING NEWS
latest

728x90

ad

468x60

ad

วันอังคารที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2562

ชาวสวนเฮ!!! เทงบฯ 2.4 หมื่นล้าน ประกันรายได้ชาวสวนยางฯ




“เฉลิมชัย” ยัน ประกันรายได้ ชาวสวนยางฯ ได้เท่าเทียม เริ่ม 1 ต.ค.62 - 30 มี.ค.63 ชงมติบอร์ด กยท. ให้ กนย. เห็นชอบ 4 ต.ค. เทงบฯ 2.4 หมื่นล้าน เริ่มจ่ายเงินส่วนต่าง งวดแรก 15 ธ.ค.นี้


เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2562 เวลา 15.30 น. นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า โครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยางพารา ระยะที่ 1 เริ่มต้นตั้งแต่ วันที่ 1 ต.ค.62 จนถึง วันที่ 30 มีนาคม 63 รวมเวลา 6 เดือน โดยการจ่ายเงินส่วนต่างจากราคายางพารา ที่เกษตรกรขายได้จะจ่ายให้ 2 เดือนต่อ 1 ครั้ง ซึ่งงวดแรก ระหว่างเดือนตุลาคม ถึงพฤศจิกายน 62 จะเริ่มจ่ายตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 62 เป็นต้นไป ผ่านบัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)

ทั้งนี้ ประกันรายได้ของราคาขายยางแผ่นดิบคุณภาพดี 60 บาท/กิโลกรัม น้ำยางสด (DRC 100%) 57.00 บาท/กิโลกรัม และยางก้อนถ้วย (DRC 50%) 23.00 บาท/กิโลกรัม ทั้งนี้ การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) คำนวณผลผลิต 20 กิโลกรัม/ไร่/เดือน ให้รายละไม่เกิน 25 ไร่ รวมพื้นที่ทั้งหมด 17,201,390.77 ไร่ สำหรับเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ ต้องขึ้นทะเบียน หรือแจ้งการปลูกกับ กยท. ก่อนวันที่ 12 สิงหาคม 62 ประกอบด้วยเกษตรกรที่ถือบัตรสีเขียว ซึ่งพื้นที่มีเอกสารสิทธิและบัตรสีชมพู ซึ่งเป็นพื้นที่ไม่มีเอกสารสิทธิ แบ่งเป็นเจ้าของสวน 1,412,017 ราย และคนกรีด 299,235 ราย งบประมาณรวม 24,278,626, 534 ล้านบาท






นายเฉลิมชัย กล่าวต่อว่า นายกรัฐมนตรีได้มอบหมาย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้ทำหน้าที่ประธานคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ (กนย.) ในวันที่ 4 ตุลาคมนี้ เพื่อพิจารณาโครงการประกันรายได้ชาวสวนยางพารา ตามที่ กยท. เสนอ จากนั้นจะนำเข้าสู่ที่ประชุม ครม. โดยเร็วที่สุด เพื่อให้สามารถจ่ายเงินตามโครงการได้ตามเวลาที่กำหนด สำหรับงบประมาณนั้น ธ.ก.ส. สำรองจ่ายไปก่อน และให้ ธ.ก.ส. เสนอขอรับจัดสรรงบประมาณในปี 2564 ประกอบด้วย งบสำหรับการประกันรายได้ตามโครงการ งบชดเชยต้นทุนเงินต้น ธ.ก.ส. ค่าใช้จ่ายในการโอนให้เกษตรกร และค่าบริหารโครงการเหมาจ่าย 1% ของวงเงินชดเชยรายได้

สำหรับราคายางพารา ขณะนี้ ทาง กยท. รายงานว่า จะทรงตัวอยู่สักระยะเนื่องจากวันนี้ (1 ตุลาคม) เป็นวันชาติของสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งกำหนดให้เป็นวันหยุดต่อเนื่อง ถึงวันที่ 7 ตุลาคม ส่งผลให้ราคายางในไทย ทรงตัวตามไปด้วย โดยวันนี้ราคายางแผ่นดิบคุณภาพดีอยู่ที่ 38.77 บาท/กิโลกรัม หากเปรียบเทียบกับราคาประกันรายได้ เกษตรกรจะได้รับเงินส่วนต่าง 21.23 บาท/กิโลกรัม น้ำยางสด (DRC 100%) 37.50 บาท/กิโลกรัม หากเปรียบเทียบกับราคาประกันรายได้ เกษตรกรจะได้รับเงินส่วนต่าง 20.50 บาท/กิโลกรัม และยางก้อนถ้วย (DRC 50%) 16.70 บาท/กิโลกรัม หากเปรียบเทียบกับราคาประกันรายได้ เกษตรกรจะได้รับเงินส่วนต่าง 6.30 บาท/กิโลกรัม

“โครงการประกันรายได้เป็นมาตรการระยะสั้น ที่ต้องเร่งทำเนื่องจากชาวสวนยางเดือดร้อนจากราคายางที่ตกต่ำ มากว่า 5 ปี ซึ่งจะทำควบคู่กับมาตรการอื่นๆ ได้แก่ การเพิ่มการใช้ยางภายในประเทศ การลดพื้นที่ปลูกยาง รวมถึงการสร้างตลาดกลางยางพาราขึ้นในประเทศไทย เช่นเดียวกับ ตลาดกลางยางพาราในเซี่ยงไฮ้ของจีน ในสิงคโปร์ และญี่ปุ่น เนื่องจากไทย เป็นผู้ส่งออกยางพารารายใหญ่ที่สุดของโลก จึงควรกำหนดราคากลางตามกลไกตลาดที่แท้จริงได้ ไม่ให้ถูกบิดเบือนจากตลาดต่างประเทศ เมื่อราคาปรับตัวสูงขึ้น เท่ากับราคาที่ประกันรายได้ไว้จะหยุดโครงการประกันรายได้ทันที โดยเชื่อมั่นว่า มาตรการต่างๆ ที่ทำควบคู่กันจะทำให้ราคายางพารา มีเสถียรภาพอย่างยั่งยืนในอนาคต” นายเฉลิมชัย กล่าว...


ข่าว : thairath

« PREV
NEXT »

ไม่มีความคิดเห็น