BREAKING NEWS
latest

728x90

ad

468x60

ad

วันเสาร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2563

แล้งนี้! พาณิชย์ชี้ภัยแล้วปีนี้อ่วม สินค้าเกษตรแพงเตรียมรับมือ





พาณิชย์ชี้ภัยแล้วปีนี้อ่วม สินค้าเกษตรแพง ข้าว ผัก มะนาว หมูผลผลิตลดฮวบ แนะผู้ประกอบการเตรียมตัวรับมือ

นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน (คน.) กล่าวถึงสถานการณ์ราคาสินค้าทางการเกษตรในปี 2563 ว่า ในปีนี้คาดว่าสถานการณ์ภัยแล้งจะรุนแรงมากขึ้น จนทำให้กระทบต่อปริมาณผลผลิตที่จะออกมาสู่ท้องตลาด โดยในภาพรวมสินค้าเกษตรจะมีราคาสูงขึ้นเพราะปริมาณลดลง เช่น ข้าว เนื้อสุกร ผักที่ใช้น้ำในการเพาะปลูกมาก ส่วนราคาเนื้อสุกร กรมจะจับตาเป็นพิเศษ เนื่องจากสภาพอากาศร้อนจัดหมูโตช้าและมีการส่งออกจำนวนมาก เนื่องจากราคาต่างประเทศสูงกว่าราคาในประเทศ โดยกรมฯจะดูแลราคาให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม หน้าฟาร์มกิโลกรัมละ 75-80 บาท และราคาหน้าเขียงอยู่ที่ 150-160 บาท หากสูงเกินจะหารือกับสมาคม เพื่อจำกัดปริมาณการส่งออกซึ่งก็จะช่วยให้ราคาในประเทศไม่สูงจนเกินไปส่วนผักสดที่ใช้น้ำมากอาจได้รับผลกระทบปริมาณลดลง จะหารือกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้มีการปลูกผักอายุสั้นทดแทน รวมถึงมะนาว คาดว่าปริมาณจะลดลงแต่ไม่ถึงขั้นขาดแคลน โดยช่วงนี้ผู้ประกอบการร้านอาหารมีการปรับตัว โดยการซื้อมะนาวล่วงหน้าแช่แข็งไว้รอใช้งานในช่วงที่มะนาวมีราคาสูง โดยราคามะนาวในปัจจุบัน(8 ม.ค.63) มะนาว (เบอร์1-2) ราคาต่อ ผลละ 2.50 - 3 บาท และมะนาว (เบอร์3-4) ผลละ  1.50 – 2บาท

“ถือว่ากรมได้ส่งสัญญาณไปแล้วว่าราคามะนาวจะแพงเพราะได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง ร้านอาหารที่ต้องใช้น้ำมะนาวในการปรุงอาหารเป็นจำนวนมากควรซื้อมะนาวมาบีบเอาน้ำแช่แข็งไว้เพื่อปรุงอาหารในช่วงที่มะนาวมีราคาสูง เพื่อจะได้ไม่มีปัญหาภายหลัง อย่างไรก็ตามในช่วงที่ราคาสินค้าเกษตรมีราคาสูงขึ้นก็ขอให้มองอีกมุมว่าเป็นช่วงที่เกษตรกรจะพอลืมตาอ้าปากได้บ้าง เพราะในบางช่วงเกษตรกรก็ได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติ หรือจากผลผลิตล้นตลาดจนทำให้ราคาตกต่ำ ทั้งนี้กรมก็จะดูแลราคาสินค้าให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เช่น การดูแลลดค่าครองชีพผ่านร้านธงฟ้าและการจัดงานธงฟ้ากระจายไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศช่วยเหลือประชาชน โดยจำนวนร้านธงฟ้าทั่วประเทศขณะนี้มีประมาณ 120,000 ร้านค้า” นายวิชัย กล่าว

ส่วนสถานการณ์ราคาน้ำมันที่มีการปรับตัวสูงขึ้นในช่วงนี้หลังจากมีความกังวลจากเหตุความตึงเครียดระหว่างสหรัฐกับอิหร่านนั้น เชื่อว่าจะเป็นผลเพียงชั่วคราวและราคาน้ำมันตลาดโลกได้มีการปรับตัวลดลงแล้ว เพราะเชื่อว่าความตึงเครียดดังกล่าวจะไม่เกิดผลบานปลายกลายเป็นสงคราม ทางผู้ประกอบการจะใช้เหตุผลของราคาน้ำมันที่มีการปรับตัวสูงขึ้นมาเป็นข้ออ้างในการปรับราคาสินค้าเพิ่มขึ้นไม่ได้

ทั้งนี้ จากการพิจารณาต้นทุนของกรมการค้าภายใน พบว่ายังไม่มีน้ำหนักเพียงพอที่จะมีการปรับราคาสินค้าเพิ่มขึ้น และหากมีการฉวยโอกาสจากสถานการณ์ดังกล่าว จะมีการเอาผิดตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด และปีนี้ยังไม่กำหนดการประชุมคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.)เพื่อทบทวนรายการสินค้าในบัญชี ซึ่งจะมีการทบทวนเป็นประจำทุกปี


« PREV
NEXT »

ไม่มีความคิดเห็น