เมื่อวันนี้ 23 เม.ย. 63 เวลา 11.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่จังหวัดบึงกาฬ หลังจากชาวบ้านในพื้นที่บ้านนาสวรรค์ ตำบลนาสวรรค์ อำเภอเมืองบึงกาฬ ได้รับความเดือดร้อนบ้านเรือนเสียหายกว่า 160 หลัง เนื่องจากเกิดพายุฤดูร้อนหมุนพัดถล่มเมื่อคืนที่ผ่านมา ทั้งต้นไม้ล้มทับบ้านพัก สวนยางพาราหักโค่น และต้นไม้ล้มทับเสา-สายไฟฟ้าหักโค่นไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้าง ล่าสุดนายธีระพล ขันพานเพลิง นายอำเภอเมืองบึงกาฬ พร้อมด้วยนายวิจารณ์ เหล่าธรรมยิ่งยง หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดบึงกาฬ(ปภ.) พ.ต.ท.พลสันติ์ คมขาว ผบ.ร้อย ตชด.244 ร.ต.อ.สมพงษ์ พบวันดี รอง ผบ.ร้อยนำกำลัง 20 นาย.และนายธงไชย ป้องศรี นายกองค์การบริหารส่วนตำบลนาสวรรค์ นำกำลังฝ่ายปกครองอำเภอเมืองบึงกาฬ ทหารจากกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่13 เข้าช่วยเหลือเก็บเศษซากไม้-สังกะสี ที่ถูกแรงลมพัดเสียหาย และช่วยเหลือซ่อมแซมบ้านเรือนบางส่วน เช่นมุงหลังคาบ้านที่เสียงหายเพียงเล็กน้อยให้มีที่หลบฝนหากคืนนี้มีฝนตกลงมาอีกให้กับคืนสภาพเดิม ส่วนบ้านที่เสียหายหนักทั้งหลังต้องรอซ่อมแซมที่หลัง นอกจากนี้ยังได้มอบถุงยังชีพให้กับครอบครัวผู้ประสบภัยในครั้งนี้ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ และแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนในเบื้องต้นก่อน
นายสนิท ขาวสอาด ผวจ.บึงกาฬ มอบหมายให้ นายธีระพล ขันพานเพลิง นอภ.เมืองบึงกาฬ เร่งสำรวจความเสียหายพร้อมอนำถุงยังชีพไปมอบให้กับผู้เดือนร้อน
นายธงไชย ป้องศรี นายกองค์การบริหารส่วนตำบลนาสวรรค์ ได้สั่งการให้ จนท.กองช่าง อบต.นาสวรรค์ เร่งสำรวจความเสียหาย และจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์มาช่วยเหลือและเยียวยาประชาชนที่เดือดร้อนเป็นการด่วนแล้ว บ้านที่เสียหายหนักทั้งหลังจะได้รับเงินช่วยเหลือ 30,000 บาทต่อหลัง ส่วนที่เสียหายเล็กน้อยก็ซื้อวัสดุให้ซ่อมแซมกันเอง โชคดีไม่มีใครบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
ส่วนนายธีระพล ขันพานเพลิง นายอำเภอเมืองบึงกาฬ กล่าวว่าเบื้องต้นจากการสำรวจของผู้ใหญ่บ้านและเจ้าหน้าที่ ปภ.มีบ้านเรือนเสียหายในหมู่ที่ 1-6 จำนวนทั้งสิ้น 171 หลังคา เสียหายไม่มากและสามารถซ่อมแซมเองได้มีจำนวน 154 หลังคาเรือน และเสียหายอย่างหนักมีจำนวน 17 หลังคาเรือน เช่นบ้าน นางนพาภรณ์ เคนาอุประ อายุ 64 ปี บ้านเลขที่ 63 หมู่ที่ 5 บ้านคำแคน ต.นาสวรรค์ ถูกลมพายุหมุนพัดหลังคาบ้านที่มุงด้วยอลูซิ่งปลิวว่อนไปไกลกว่า 300 เมตร ตกถูกบ้านคนอื่นเสียหายอีก 5 หลังซึ่งได้สั่งการให้ อบต.นาสวรรค์ เร่งจัดสรรงบประมาณจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์มาช่วยเหลือซ่อมแซมให้ประชาชนเป็นการด่วนแล้ว และหากงบประมาณไม่เพียงพอก็ขอสนับสนุนจากทางอำเภออีกทางหนึ่ง หรือจากสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดบึงกาฬ (ปภ.)ได้อีก ส่วนในพื้นที่ตำบลอื่นๆ ในเขตรับผิดชอบของอำเภอเมืองบึงกาฬ ได้สั่งการให้ผู้นำท้องถิ่น ทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้นจากพายุ แล้วรายงานให้ตนทราบอย่างเร่งด่วนเพื่อหาทางช่วยเหลือเยียวยาต่อไป.
ข่าวต้นฉบับ
ไม่มีความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น