เมื่อวันที่ 16 พ.ค. 63 เวลา 18.00 น. ที่ป่าหญ้าเลาริมฝั่งโขงหน้าเทศบาลตำบลบึงกาฬ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ และที่ถนนข้าวเม่าริมฝั่งโขง ที่นายวิทยา เสนจันทร์ฒิไชย นายกเทศมนตรีตำบลบึงกาฬ ได้เปิดเป็นตลาดถนนคนเดินหรือ”ตลาดต้องชม” ซึ่งส่งเสริมให้พี่น้องประชาชนนำสินค้าประเภทของกินของใช้ ทั้งอาหารการกิน เสื้อผ้า รองเท้าฯ มาตั้งร้านค้าขาย โดยจัดให้ค้าขายทุกวันศุกร์-เสาร์ ทุกสัปดาห์เดือนละ 4 ครั้ง โดยนัดนี้เป็นนัดที่ 2 หลังจากปิดโควิดมาร่วม 2 เดือน จึงมีการผ่อนปรนให้ขายสินค้าได้ แต่ต้องตั้งร้านค้าอยู่ห่างกันประมาณ 2 เมตร ทั้งคนซื้อและคนขายจะต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือใส่แมส โดยมีเจ้าหน้าที่เทศกิจคอยบริการตักเตือนผู้ที่ไม่สวมใส่ พร้อมทั้งมีการบริการเจลแอลกอฮอล์ล้างมือให้ประชาชนผู้ที่มาเดินตลาดจับจ่ายใช้สอย
จนท.ดับเพลิงของ ทต.บึงกาฬ อบต.บึงกาฬ ทต.วิศิษฐ์ นำรถดับเพลิง 7 คันช่วยกันฉีดน้ำสกัดไฟไม่ให้ลุกลามป่าหญ้าเลาที่เกิดในหาดริมโขง
กระทั่งในเวลาประมาณ 17.00 น.อากาศร้อนอบอ้าวก็เกิดไฟลุกไหม้ป่าหญ้าเลาที่หาดริมน้ำโขง โดยเริ่มลุกไหม้มาจากทางหาดริมโขง โดยลุกลามอย่างรวดเร็ว ประกอบกับมีลมกรรโชกแรงคล้ายพายุฝนจะตก จึงเกิดความโกลาหลทั้งพ่อค้าแม่ขายและประชาชนที่มาเดินหาซื้อสินค้า แม้แต่บ้านและร้านค้าที่ตั้งอยู่บนถนนข้าวเม่าริมโขงก็พลอยเดือดร้อนไปด้วย เนื่องจากมีควันไฟและฝุ่นละอองของเถ้าเศษหญ้าที่ถูกไฟไหม้แล้วปลิวกระจายไปทั่วทั้งตลาดต้องชม ปลิวตกใส่สินค้าประเภทต่างๆ ทั้งอาหาร เสื้อผ้าเปรอะเปื้อนฝุ่นละอองควันพิษหายใจไม่สะดวก ทำเอาพ่อค้าแม่ขายบางคนทนไม่ไหวต้องเก็บสิ่งของกลับบ้านก่อนปิดตลาดนัดคือ 2 ทุ่ม
รบกวนการค้าขายในตลาดต้องชมหรือถนนคนเดิน ถนนข้าวเม่าริมโขง อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ
ด้านนายเชิดชัย เจริญดี รองปลัดเทศบาลบึงกาฬ ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า เหตุการณ์ไฟไหม้หญ้าเลาครั้งนี้ยังบอกไม่ได้ว่าเกิดจากคนลอบจุดไฟเผาเพื่อจะปลูกพืชหรือเผ่าล่าสัตว์ หรือจะเกิดเองตามธรรมชาติ เพราะอากาศร้อนมากทะลุ 40 องศาเกือบทุกวัน เหตุที่ไฟลุกไหม้หญ้าเลาถึงแม้มันจะมองเห็นหญ้าสีเขียวๆ แต่ด้านล่างโคนกอหญ้าจะมีใบแห้งหล่นจำนวนมาก จึงเป็นเชื้อไฟอย่างดีให้ลุกไหม้อย่างรวดเร็ว หลังเกิดเหตุ นายนายวิทยา เสนจันทร์ฒิไชย นายกเทศมนตรีตำบลบึงกาฬ ได้สั่งการให้ นายประสิทธิ์ จันทร์พวง รองนายกและ ปภ.นำรถดับเพลิงกว่า 4 คันมาฉีดน้ำสกัดดับไฟเกรงจะลุกลามไปไหม้บ้านเรือนชาวบ้านที่อยู่ริมน้ำโขงและสร้างเขื่อนกันตลิ่งพังไปไม่ถึง ถึงกระนั้นยังเอาไม่อยู่ต้องประสานไปยังหน่วยดับเพลิงของ อบต.บึงกาฬ และ ทต.วิศิษฐ์ นำรถดับเพลิงมาเสริมอีก 3 คัน จนถึงเวลาเกือบ 3 ทุ่มจึงสกัดไฟได้ ไฟไหม้ครั้งนี้ไม่มีทรัพย์เสียหายเจ้าหน้าที่ทุกคนก็ปลอดภัย จึงขอขอบคุณทีมงานที่มาช่วยเหลือทั้ง จนท.ดับเพลิงและช่วยอำนวยความสะดวกการจราจร ทั้งตำรวจจราจรและหน่วยกู้ภัยต่างๆ ด้วย.
บึงกาฬ//ข่าว : นิธิศักดิ์ เศรษฐแสงศรี
ไม่มีความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น