BREAKING NEWS
latest

728x90

ad

468x60

ad

วันพุธที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2563

บึงกาฬเตือนภัย หลอกซื้อดาวน์มอเตอร์ไซค์ เสียหายรวมกันเกือบ10ล้าน






บึงกาฬ ชาวบ้านถูกนายหน้าหลอกให้ไปทำยอดขายหรือทำเคส กับบริษัทขายรถจักรยานยนต์จะได้ค่าดำเนินการคนละ 4-5,000 บาท อ้างทำมานานแล้วไม่มีปัญหา มีชาวบ้านหลงเชื่อหลายร้อยคน สุดท้ายโดนไฟแนนซ์ ฟ้องรายละ 100,000-140,000 บาท

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 20 ต.ค. ที่ชั้น 2 สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดบึงกาฬ มีชาวบ้านในพื้นที่อำเภอพรเจริญ อำเภอศรีวิไล และอำเภอเซกา กว่า 50 คน เข้าร้องขอความช่วยเหลือกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดบึงกาฬ และศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดบึงกาฬ ผ่านนายนิพนธ์ คนขยัน นายก อบจ.บึงกาฬ และนายมาวิน ยศรุ่งเรืองวัฒนา ผอ.กลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดบึงกาฬ ที่ได้รับมอบหมายจากนายสนิท ขาวสอาด ผวจ.บึงกาฬ ให้มารับเรื่องร้องทุกข์หลังชาวบ้านกลุ่มนี้ ถูกนายหน้าหลอกให้ไปทำยอดขายหรือทำเคส กับบริษัทขายรถจักรยานยนต์จะได้ค่าดำเนินการคนละ 4-5,000 บาท อ้างทำมานานแล้วไม่มีปัญหา มีชาวบ้านหลงเชื่อหลายร้อยคน สุดท้ายโดนไฟแนนซ์ ฟ้องรายละ 100,000-140,000 บาท



ภาพข่าว เฟซบุ๊ก สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดบึงกาฬ

ภาพข่าว เฟซบุ๊ก สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดบึงกาฬ

ภาพข่าว เฟซบุ๊ก สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดบึงกาฬ

ภาพข่าว เฟซบุ๊ก สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดบึงกาฬ

ภาพข่าว เฟซบุ๊ก สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดบึงกาฬ

ภาพข่าว เฟซบุ๊ก สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดบึงกาฬ




--------------

เรื่อง ชาวบ้านถูกศาลพิษากษาให้ชำระเงินแก่บริษัท ก. ตามสัญญาเช่าซื้อรถจักรยานยนต์. ***แต่ชาวบ้านไม่ได้รับรถมาครอบครอง ได้แต่ทะเบียนรถ

พ่อแม่ผมและชาวบ้านหลายร้อยชีวิต ถูกชักชวนจากนางสาว ก. โดยอ้างว่าให้ไปเซ็นเอกสารเพื่อทำยอดขายรถจักรยานยนต์ให้กับบริษัทผู้แทนจัดจำหน่ายรถจักรยานต์ โดยมีค่าเซ็นต์เอกสารให้คนละ 4,000.- บาท นางสาว ก. แจ้งว่าการเซนต์เอกสารครั้งนี้ จะไม่มีข้อผูกมัด บอกว่าเคยทำเพิ่มยอดขายแบบนี้มา 2-3 ปี ไม่มีปัญหาใดๆๆ แต่จะมีเอกสารใบแจ้งหนี้รถจักรยานยนต์มาถึงบ้านก็ไม่เป็นไร ไม่ต้องไปชำระ พ่อแม่ผมไปเซ็นต์รับเงินมาคนละ 4,000.- รวม 8,000.- บาท หลังจากนั้นมีใบแจ้งหนี้มาทุกเดือน จนกระทั่งมีหมายศาลมาถึงบ้านระบุ บริษัท ข. ผู้ปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อฯเรียกร้องค่าเสียหายเนื่องจากไม่ส่งเงินผ่อนชำระตามสัญญาเช่าซื้อ พ่อแม่และชาวบ้านไม่ยอมจ่ายเพราะวันเกิดเหตุไปเซ็นต์เอกสารรับเงินทำยอดขายเท่านั้น ไม่ใช่ไปเซ็นต์เช่าซื้อรถ คดีนี้มีชาวบ้านหลายร้อยคนตกเป็นเหงื่อ คดีเกิดขึ้นจากแหล่งเดียวกันแต่ต่างวาระ ชาวบ้านบางคนถูกศาลตัดสินให้จ่ายเงินตามสัญญาเช่าซื้อตามรุ่นรถที่ถูกหลอกให้เซ็นต์สัญญาอยู่ที่ 80,000.- 150,000.- บาท และยังมีคดีที่อยู่ระหว่างชั้นศาลอีกด้วย ชาวบ้านบางคนที่มีเงินยอมจ่ายเพื่อตัดปัญหา แต่ตอนนี้มีชาวบ้านส่วนใหญ่ที่ไม่มีเงิน รับจ้างทั่วไป หาเช้ากินค่ำ เป็นชาวไร่ชาวนา รวมทั้งพ่อแม่ของผม ได้รวมตัวกันมาเพื่อหาหนทาง บ้างก็ไปขอนำแนะจากทนาย, ร้องทุกข์ที่ศูนย์ดำรงธรรม, ขอความช่วยเหลือจากผู้หลักผู้ใหญ่. ทั้งหมดนี้ยังไม่ใครที่เข้ามาช่วยเหลือแบบจริงๆๆ จังๆๆคับ อ่อๆๆ. นางสาว ก. ผู้ชักชวน. ผู้พาไปเซ็นต์เอกสาร ไม่ยอมพูดความจริงใดๆๆ ทั้งสิ้นผมพูดได้คำเดียวว่าสงสารคับ เลยเขียนเรื่องราวเพื่อเป็นอุทาหรณ์หากใครได้อ่านได้แชร์เรื่องราวนี้ เพื่อไม่ให้ชาวบ้านหรือใครตกเป็นเหงื่อจากเหตุการณ์แบบนี้คับ. เรื่องราวทั้งหมดนี้อาจมีตกหรือขาดหายไปบ้างของข้อมูลขออภัยด้วยคับ



ข้อสังเหตุและบทเรียน

- มีชาวบ้านกว่า 500 คน(เฉพาะอำเภอเดียว)ที่ตกเป็นเหงื่อแสดงว่ามีผู้ตกเป็นเหงื่อในคดีเดียวกันต่างอำเภอ ต่างจังหวัดกันหลักพันคนแน่นอน

- แต่ละคนถูกหลอกเซ็นต์สัญญาเช่าชื้อตามราคารุ่นรถเฉลี่ย 100,000.-บาท

300 คนเท่ากับ 300,000,000.- บาท

500 คนเท่ากับ 500,000,000.- บาท

1000 คนเท่ากับ 1,000,000,000.- บาท ความเสียหายรวมกันมูลค่ามหาศาล

- ใครได้รับผลประโยชน์เรื่องจากนี้

- ตัวรถหายไปไหน

- คดีนี้สร้างความเสียหายกับประชาชนเป็นวงกว้าง และเศรษฐกิจในตัวจังหวัด

- ชาวบ้านถูกหลอกให้เซ็นต์สัญญาเช่าซื้อ มีใบแจ้งหนี้ส่งมาที่บ้าน. แต่ทุกคนไม่ได้รับรถ

- ไม่มีของฟรีที่ได้มาง่ายๆๆ โดยที่ไม่มีอะไรแลกเปลี่ยน

- เหตุเกิดที่ อ. พรเจริญ จ. บึงกาฬ







ที่มา เฟซบุ๊ก สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดบึงกาฬ, เฟซบุ๊ก Sorapong Sangprajak
« PREV
NEXT »

ไม่มีความคิดเห็น