BREAKING NEWS
latest

728x90

ad

468x60

ad

วันพุธที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2564

บึงกาฬ ร้องสื่อ ผอ.นำไม้เสาเก่าบ้านพักครูไปเก็บไว้บ้านพักนอกโรงเรียน(มีคลิป)




เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 25 ส.ค. นายสรัญ สินชื่น ประธานคณะกรรมการสถานศึกษา โรงเรียนประถมศึกษาชื่อดังแห่งหนึ่งใน อ.เซกา จ.บึงกาฬ พร้อมด้วย นางจินตนา คงทัน อดีตนายกเทศบาลแห่งหนึ่งพร้อมด้วยคณะกรรมการและผู้ปกครองนักเรียนประมาณ 20 คน ได้รวมตัวกันพร้อมชูป้ายที่เขียนใส่กระดาษชาร์ทสีต่างๆ หลายแผ่นขนาดใหญ่ โดยมีข้อความกล่าวหาผู้อำนวยการโรงเรียน เช่น ข้าราชการลักทรัพย์ของหลวงถือว่าผิดวินัยร้ายแรง ,แม่พิมพ์ไม่ดี ควรสูญพันธุ์จากโรงเรียนเราและ ออกไป ผอ.ชั่วเราไม่เอา เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อขับผู้อำนวนการโรงเรียนออกจากพื้นที่ โดยอ้างว่าเนื่องจากมีความประพฤติผิดร้ายแรง ทำตัวไม่เหมาะสมกับตำแหน่งหน้าที่ ซึ่งได้ไปแจ้งความร้องทุกข์ไว้กับ ร.ต.อ.ทินกร ดวงแสงจันทร์ พนักงานสอบสวน สภ.เซกา ไว้แล้วเมื่อวันที่ 9 สิงหาคา 64 ที่ผ่านมา

ด้านนายกนก ต้นกันยา คณะกรรมการสถานศึกษาโรงเรียนคนหนึ่งกล่าวว่า ได้รับทราบจากครูในโรงเรียนว่า ผอ.ขนเสาเก่าไปไว้ที่บ้านพักตัวเอง จึงได้มีการประชุมปรึกษาหารือกัน ซึ่งตนก็ได้พูดว่า ผอ.ทำแบบนี้ก็ไม่ถูก จะเอาทรัพย์สินโรงเรียนหรือของทางราชการออกไปข้างนอกโดยพละการโดยไม่ได้รับความยินยอมจากคณะกรรมการฯ แบบนี้ก็ไม่ได้ จะต้อง ผอ.เป็นข้าราชการผู้ใหญ่ผิดถูกอย่างไรคงรู้ดี ส่วนที่มารวมตัวกันชูป้ายวันนี้ก็อยากให้ทางผู้หลักผู้ใหญ่ในวงการศึกษาให้ย้าย ผอ.คนนี้ออกจากโรงเรียนไปก่อน เพราะมีการร้องเรียนหลายเรื่องในเวลา 2 ปีที่มาอยู่ที่นี่ คิดว่าเป็นคนใหม่จะได้พัฒนาโรงเรียน แต่ก็ไม่มีการพัฒนาอะไรยิ่งขี้ร้ายกว่าเดิม เช่นเดียวกัน นายบัวลา ปุณรักษ์ อายุ 62 ปี มาในฐานะศิษย์เก่า ก็อยากให้ ผอ.คนนี้ย้ายออกไปดำรงค์ตำแหน่งที่อื่น คือไม่อยากให้ลูกหลานมาอยู่เรียนกับ ผอ.ที่มีความประพฤติไม่ดี ส่วน ผอ.คนใหม่พวกเราชาวบ้านเลือกไม่ได้ว่าจะเป็นใคร แต่อยากให้มาพัฒนาโรงเรียน มาพัฒนานักเรียนพ่อแม่ก็พอใจแล้ว 






ด้านนายพลชัย ชุมปัญญา ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบึงกาฬ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า จากที่มีผู้มาร้องเรียน ผอ.ร.ร.ในสังกัดของ สพป.รายหนึ่งว่ามีพฤติกรรมลักไม้เสาเก่าของ ร.ร.ไปไว้ที่บ้าน จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการลงพื้นที่สืบหาข้อเท็จจริง  และก็ได้รับทราบต่อมาว่ามีชาวบ้านชุมนุมกันชูป้ายขับไล่ ผอ.รายนี้ จึงได้สั่งการให้ รอง ผอ.และนิติกรลงพื้นที่ เพื่อไปทำความเข้าใจพูดคุยกับคุณครู และในวันนี้ก็ได้เชิญ ผอ.รายนี้ได้มาชี้แจงข้อเท็จจริงด้วยวาจาเกี่ยวกับข้อกล่าวหามา ก็ทราบว่า ผอ.รายนี้ได้ทำหนังสือขออนุมัติรื้อถอนบ้านพักครูเพื่อจะนำไปต่อเติมโรงอาหารของโรงเรียน วันเกิดเหตุได้พาช่างไปขนเอาเสาเก่า จำนวน 9 ต้นใส่รถปิกอัพไปเพื่อให้ช่างนำไปแปรรูปที่บ้าน จะได้ไม่มีเสียงดังรบกวนครูขณะเลื่อยไม้และไสกบ นี่คือคำชี้แจงเบื้องต้น ส่วนข้อเท็จจริงอย่างไรต้องรอคณะกรรมการสรุปรายงานมาให้ทราบอีกที

ส่วนกรณีชาวบ้านอยากให้ย้าย ผอ.ออกจาก ร.ร.ไปก่อนนั้น ต้องรอคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมาสืบข้อเท็จจริงสรุปมาก่อนว่า หาก ผอ.รายนี้อยู่บริหารต่อไปแล้วจะมีปัญหามากขึ้นหรือไม่อย่างไร ต้องดูสถานการณ์ก่อน ต้องใช้เวลาประมาณ 1 เดือน แต่จะให้เร่งรัดให้เร็วที่สุด ส่วนการดำเนินคดีที่มีผู้ไปแจ้งความก็เป็นหน้าที่ของตำรวจว่าไปตามขบวนการคดีความ และด้านการสอบสวนทางวินัยก็ดำเนินการควบคู่กันไปด้วย หากคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริงสรุปว่ามีมูลความผิดก็จะลงโทษ 2 แบบคือวินัยร้ายแรง ปลดออกหรือไล่ออก กับวินัยไม่ร้ายแรง คือภาคทัณฑ์หรือตัดเงินเดือนหรือ ลดขั้นเงินเดือนแล้วแต่กรณี

เกี่ยวกับเรื่องนี้ผู้อำนวยการโรงเรียนดังที่ถูกคณะกรรมการสถานศึกษาฯ ได้กล่าวหาและขับไล่ให้พ้นจากโรงเรียน ได้กล่าวชี้แจงผ่านทางโทรศัพท์กับผู้สื่อข่าวว่า กรณีตนขนไม้ออกจากโรงเรียนไปที่บ้านพักนอกโรงเรียนเป็นเรื่องจริง หลังจากที่ขออนุมัติ ผอ.สพป.บึงกาฬ เพื่อขอรื้อถอนบ้านพักครูเก่าที่ชำรุด 3 หลังสำนักงาน เมื่อ 7 ม.ค.62 พอมา 8 ม.ค.62 ก็ได้รับอนุมัติให้รื้อถอนได้ มีครูจะนำญาติมาขอซื้อในราคา 9,000 บาทต่อบ้านพัก 1 หลัง ค่าจ้างรื้อถอนก็ 4,000 บาท ทางโรงเรียนก็จะได้รับเงินจริงสุทธิแค่ 5,000 บาท ตนจึงไม่ยอมขายประกอบกับผิดวัตถุประสงค์ในการขออนุมัติรื้อถอน คือเพื่อนำไปก่อสร้างใหม่และปรับปรุงต่อเติมโรงอาหารเดิม จึงหาคนมารื้อถอนเองก่อน 1 หลัง ส่วน 2 หลังยังไม่ได้รื้อถอน  อาศัยอำนาจของผู้บริหารโรงเรียนวันเกิดเหตุได้พาช่างไม้ไปขนเอาเสาเก่าจำนวน 9 ต้นซึ่งเป็นเสาไม้ใช้ต่อเสาปูนขนาดยาวประมาณ 2.5 เมตร ไปแปรรูปที่บ้านพัก เพื่อป้องกันมลพิษภาวะทางเสียงรบกวนครูที่ทำงานในโรงเรียนและเป็นการประหยัดค่าไฟในโรงเรียนด้วย หลังจากแปรรูปเสร็จจึงจะนำมาต่อเติมโรงอาหารและประกอบเป็นศาลานักพักผู้ปกครองที่มาติดต่องาน หลังจากทราบว่ามีคณะกรรมการไปร้องทุกข์กล่าวโทษตนที่ สภ.เซกา ที่นำเสาออกไปจากโรงเรียน จึงขนกลับมาไว้เหมือนเดิมเพื่อไม่ให้เกิดเป็นประเด็นยืดยาวต่อไป แต่หลังจากนี้ไปตนก็จะไปแจ้งความเอาผิดผู้ที่กล่าวหาตน ในข้อหาหมิ่นประมาท แจ้งความอันเป็นเท็จต่อบุคคลอื่นให้ได้รับโทษทางอาญา แจ้งความข้อหาบุกรุกสถานที่ราชการ จัดการชุมนุมโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้บริหารเจ้าของสถานที่และละเมิดมาตรการป้องกันโควิต-19  และดำเนินคดีกับผู้ที่นำข้อมูลอันเป็นเท็จที่มีการไปแจ้งความเอาผิดตนและนำไปลงเผยแพร่ในไลน์กลุ่ม ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ด้วย.












บึงกาฬ//ข่าว : เกรียงไกร พรมจันทร์


« PREV
NEXT »

ไม่มีความคิดเห็น