BREAKING NEWS
latest

728x90

ad

468x60

ad

วันศุกร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2564

"บั้งไฟพญานาค" ขึ้นลูกแรกที่ปากคาด บึงกาฬ 18.42 น. วันนี้พุ่งจากแม่น้ำโขง รวม 8 ลูก (คลิป)



ผู้รอชมไม่ผิดหวัง ‘บั้งไฟพญานาค’ ขึ้นลูกแรกที่ปากคาด บึงกาฬ 18.42 น. วันนี้พุ่งจากแม่น้ำโขง รวม 8 ลูก

‘บึงกาฬ’ มาจริงแต่ไม่มาก บั้งไฟพญานาคพุ่งขึ้นจากแม่น้ำโขง

เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 21 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานจากลานพญานาค เขตเทศบาลอำเภอปากคาด จ.บึงกาฬ ว่าวันนี้มีนักท่องเที่ยวและประชาชนมานั่งรอชมบั้งไฟพญานาคอยู่ที่ริมน้ำโขง โดยบรรยากาศปีนี้ไม่คึกคักเท่าที่ควร เพราะการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แม้จะมีผู้มาชมบั้งไฟพญานาคหนาแน่น แต่ไม่แออัด ซึ่งเมื่อช่วงเย็นที่ผ่าน นายนฤชา โฆษาศรีวิไลซ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ พร้อมหัวหน้าส่วนราชการเดินทางมาเป็นประธานเปิดงานและร่วมในพิธีบวงสรวงพญานาค

นายนฤชากล่าวว่า ประเพณีบุญออกพรรษาถือเป็นประเพณีโบราณของพุทธศาสนิกชน ในภาคอีสานของเราบุญออกพรรษาก็จัดอยู่ในฮีตสิบสองคลองสิบสี่ที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน สำหรับชาวจังหวัดบึงกาฬและหนองคาย ประเพณีบุญออกพรรษายังถือว่ามีความพิเศษมากกว่าที่อื่น เนื่องจากมีปรากฏการณ์ที่สำคัญเกิดขึ้น นั่นคือปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาค วันนี้จึงถือเป็นนิมิตหมายอันดีที่ชาว อ.ปากคาด ได้ร่วมกันจัดประเพณีสืบสานตำนานบุญออกพรรษา บูชาบั้งไฟพญานาคในครั้งนี้

“แม้บั้งไฟพญานาคจะยังเป็นสิ่งที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ แต่สิ่งสำคัญคือประเพณีที่เกิดขึ้นนั้นได้สะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันดีงามระหว่างมนุษย์กับแม่น้ำ หรือการให้ความเคารพในแม่น้ำโขงที่หล่อเลี้ยงชีวิตประชาชนได้เป็นอย่างดี”  นายนฤชากล่าว

สำหรับบรรยากาศภายในงาน ในช่วงพิธีเปิดยังมีการแสดงฟ้อนรำบวงสรวงพญานาคจากคณะนางรำในพื้นที่ และชุดการแสดงจากสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดบึงกาฬ มีประชาชนเดินทางเข้ามารอชมและร่วมเป็นสักขีพยานของการเกิดปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาคอย่างต่อเนื่อง ภายใต้มาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ที่เคร่งครัด และนักท่องเที่ยวจากต่างพื้นที่ต้องได้รับวัคซีนอย่างน้อย 2 เข็ม และมีผลตรวจโควิด-19 ถึงจะสามารถเข้าภายในงานได้

หลังจากนั่งรอดูปรากฏการณ์ธรรมชาติถึงเวลา 18.42 น. บั้งไฟสีแดงอมชมพูลูกแรกก็ผุดขึ้นจากฝั่ง สปป.ลาว กลางแม่น้ำโขง มองเห็นชัดเจนที่บริเวณบ้านเวินโดน หมู่ 8 ต.ปากคาด อ.ปากคาด ให้ทุกคนได้เห็นพร้อมกับเสียงโห่ร้องที่มารอชมรอลุ้น จากนั้นก็ทยอยพุ่งขึ้นจากแม่น้ำโขงอีกเป็นระยะๆ แต่ก็ไม่มากเหมือนปีที่ผ่าน

จนถึงเวลา 20.28 น. รวมบั้งไฟพญานาคพุ่งขึ้นจากน้ำโขงที่ อ.ปากคาด จำนวน 8 ลูก จนขณะนี้ยังไม่มีรายงานว่ามีบั้งไฟพญานาคปรากฏขึ้นมาอีก

ด้านชาวบ้านในพื้นที่กล่าวว่า ต้องรอดูพรุ่งนี้อีกครั้งว่าจะมีปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาคเกิดขึ้นอีกหรือไม่






ในจังหวัดหนองคาย จังหวัดใกล้เคียง รวมทั้งนักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศ เดินทางไปรอชมบั้งไฟพญานาคในวันออกพรรษาตลอดแนวแม่น้ำโขง ตั้งแต่ช่วงเวลา 18.19 น. จะมีการรายงงานบั้งไฟพญานาค 2 ลูกแรก เกิดขึ้นในพื้นที่บ้านตาลชุม ตำบลโพนแพง อำเภอรัตนวาปี ทำให้นักท่องเที่ยวที่ไปเฝ้ารอชมบั้งไฟพญานาคไม่ผิดหวัง ได้ชมบั้งไฟพญานาคสมการรอคอย โดยเฉพาะจุดชมที่บ้านท่าม่วง บ้านตาลชุม ตำบลโพนแพง อำเภอรัตนวาปี แต่ละครั้งจะมีบั้งไฟพญานาคเกิดขึ้นรั้งละ 1-2 ลูก ส่วนที่บ้านน้ำเป ตำบลรัตนวาปี จำนวน 41 ลูก ขณะที่ตำบลกุดบง อำเภอโพนพิสัย มีบั้งไฟพญานาคเกิดขึ้น 12 ลูก

ซึ่งหลังจากบั้งไฟลูกแรกผุดขึ้นเวลา 18.19 น. ก็มีบั้งมีบั้งไฟผุดขึ้นต่อเนื่องในหลายจุดในพื้นที่อำเภอโพนพิสัยและรัตนวาปี กระทั่ง 21.30 น. มีการสรุปยอดรวมบั้งไฟพญานาคอย่างไม่เป็นทางการ พบว่าเกิดขึ้น 629 ลูก ซึ่งน้อยกว่าปี 2563 ที่มีจำนวน 1,066 ลูก ขณะที่นักท่องเที่ยวมีมากกว่า 179,000 กว่าคน ถือว่าลดลงจากปีก่อน ๆ เป็นอย่างมาก เพราะสถานการณ์โควิด-19 ระบาด และความเข้มงวดของจังหวัดหนองคาย





https://news.ch7.com/detail/523870

https://www.matichon.co.th/region/news_3003522

« PREV
NEXT »

ไม่มีความคิดเห็น