BREAKING NEWS
latest

728x90

ad

468x60

ad

วันเสาร์ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2564

แก๊งผู้ใหญ่บ้านซีด! ตร.ค้นรังล่ามือฆ่าแขวนคอลูกบ้าน ตร.ลั่นรู้แล้วใครอำมหิต (คลิป)

 




กรณีมีผู้ใช้เฟชบุ๊กรายหนึ่ง ร้องเรียนมาทางทีมข่าวอมรินทร์ทีวีว่า "แจ้งข่าวค่ะ โดนฆาตกรรม คนพื้นที่ปิดข่าว ไม่ยอมให้เปิดข่าวค่ะ ชาวบ้านกลัวกันมากค่ะ ที่บ้านคำบอน ตำบลน้ำจั้น อำเภอเซกา จังหวัดบึงกาฬ ชาวบ้านไม่กล้าออกไปกรีดยาง น่ากลัวมากค่ะ"

ซึ่งผู้เสียชีวิตเป็นชายชื่อ นายบุญธง บุญปากดี อายุ 49 ปี สภาพศพถูกแขวนคอด้วยเชือกสีแดงกับราวสะพานข้ามคลองน้ำ เสื้อของผู้ตายถูกถอดออก แล้วอุดปากเอาไว้ พบบาดแผลร่างกายของผู้ตาย 4 แผล ที่กลางท้อง 3 แผล และใต้ราวนมด้านซ้าย 1 แผล





วันที่ 22 ต.ค. 64 เมื่อเวลา 06.00-07.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 4 และเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรตำบลป่งไฮ อ.เซกา จ.บึงกาฬ ได้นำหมายค้นเข้าค้นบ้านบุคคลในวงเหล้า และชาวบ้านรวม 7 ราย

โดยบุคคลในวงเหล้า 4 รายได้แก่ นายแสงทอง จันมี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 13, นายรักชาติ, นายสุวรรณ, นายปัน และชาวบ้านอีก 3 ราย ได้แก่ นายชัยยุทธ ชาวบ้านหมู่ 13 พ่อของผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 10, นายสมศักดิ์ พลราชม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 10, และบ้านของนางสาวปลา ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 10 โดยตำรวจได้ขอสิ่งของในบ้านแต่ละหลัง เพื่อนำไปตรวจพิสูจน์หลักฐานด้วย

หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ก็เชิญตัวบุคคลในรายชื่อทั้ง 7 คน มาสอบปากคำที่ สภ.ตำบลป่งไฮ โดยสอบปากคำตั้งแต่เวลา 11.00 น. ถึงเวลาประมาณ 18.40 น.

นายปัน หนึ่งในผู้ทึ่อยู่ในวงเหล้ากับผู้ตาย กล่าวว่า เมื่อเวลา 06.00-07.00 น. วันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ไปตรวจค้นบ้านตัวเอง พร้อมขออาวุธมีด กางเกงยีนส์ และโทรศัพท์ของตัวเองไปตรวจสอบ ซึ่งตัวเองก็ยินดีให้ความร่วมมือกับตำรวจ เพราะตัวเองก็บริสุทธิ์ ไม่เกี่ยวข้องกับการตายของนายบุญธง

ตัวเองขอยืนยันว่าวันที่ 10 ต.ค. 64 ที่ได้ดื่มเหล้ากับคนตายนั้น ในวงเหล้าไม่มีใครข่มขู่ผู้ตาย ไม่มีการทะเลาะกันเกิดขึ้นแต่อย่างใด และตัวเองก็ไม่เคยมีปัญหากับคนตายด้วย

ด้านนายสุวรรณ พองพาลา บุคคลที่อยู่ในวงเหล้ากับผู้ตาย ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อเวลา 06.00 น. ตำรวจได้ไปค้นบ้านตัวเอง ใช้เวลาค้นประมาณ 1 ชั่วโมง และได้ตำรวจก็ได้ขอโทรศัพท์ตัวเองไปตรวจสอบอีกด้วย สำหรับตัวเองตอนนี้ก็รู้สึกเครียดบ้างเล็กน้อย เพราะว่าไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน วันนี้ตัวเองก็ได้มาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวกับเหตุการณ์ในวงเหล้า ซึ่งตัวเองก็ยืนยันเหมือนเดิมว่าในวงเหล้าไม่มีการทะเลาะกัน และไม่มีใครขู่ผู้ตายเลย

ด้านนายรักชาติ สูญราช บุคคลที่ดื่มเหล้ากับผู้ตาย เป็นบุคคลที่ตำรวจไปค้นบ้านนั้น กล่าวว่า วันนี้ตำรวจก็ได้ค้นบ้านตัวเองตั้งแต่เวลา 06.00 น. โดยเจออาวุธปืน 2 กระบอก แล้วตำรวจก็ขออาวุธปืนมาตรวจสอบ ตัวเองยืนยันว่าตัวเองไม่เครียดที่ตำรวจไปค้นบ้านตัวเอง และขออาวุธปืนมาตรวจสอบ เนื่องจากตัวเองไม่ได้ทำผิด และอาวุธปืนของตัวเองก็ถูกต้องตามกฎหมาย ตัวเองยินดีจะให้ความร่วมมือกับตำรวจทุกอย่าง

ด้านนายแสงทอง จันมี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 13 ให้สัมภาษณ์ว่า ช่วงเช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไปตรวจค้นที่บ้านตัวเอง โดยตำรวจได้ขอมีดปลาบแหลม มีดทำครัว และโทรศัพท์ของตัวเองมาตรวจสอบ ซึ่งตัวเองก็ให้ความร่วมมือกับตำรวจเป็นอย่างดี เพราะตัวเองก็อยากแสดงความบริสุทธิ์ แต่ก็มีรู้สึกเครียดบ้างเล็กน้อย ตัวเองขอยืนยันเหมือนเดิมว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายนายบุญธง ตัวเองไม่เคยรู้เรื่องการล่ารายชื่อมาก่อน ไม่เคยมีการข่มขู่ผู้ตายในวงเหล้าด้วย

นายโต้ง (นามสมมติ) ชาวบ้านที่ล่ารายชื่อปลดทีมทำงานของผู้ใหญ่บ้านหมู่ 10 เล่าว่า วันเกิดเหตุตัวเองก็ได้มาเห็นสภาพศพคนตาย ตัวเองไม่เชื่อว่าเขาจะผูกคอตาย และคิดว่าเขาถูกฆาตกรรม สาเหตุที่ตัวเองและชาวบ้านต้องมีการล่ารายชื่อปลดชุดทำงานของผู้ใหญ่บ้านหมู่ 10 ก็เพราะว่าเขาทำงานไม่ดี บริหารงานมีปัญหา ชาวบ้านจึงมีการล่ารายชื่อเพื่อปลดชุดดังกล่าวออก

นายโต้ง เล่าต่อว่า เท่าที่ตัวเองได้รับข้อมูลมา มีบุคคลที่ขู่ให้ผู้ตายเอาใบรายชื่อที่ชาวบ้านล่ารายชื่อไปให้พวกเขานั้น มีอยู่ประมาณ 2 คนด้วยกัน ยคำพูดที่ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 13 เขาขู่คนตายนั้น พูดว่า "นายก็รู้ว่าป๋าเขาโหดขนาดไหน" ช่วงระยะหลังมานี้ ชาวบ้านในหมู่ 10 เขาจะชอบเรียกหยอกล้อคนตายว่า "ผู้ใหญ่บ้านคนใหม่" ตัวเองคิดว่าประเด็นนี้เป็นอีกปมเหตุหรือไม่ และก่อนนายบุญธงจะเสียชีวิต เขาก็ถูกอีกฝ่ายว่า "เป็นเพราะมึงเป็นแกนนำ พาชาวบ้านล่ารายชื่อ มึงอยากเป็นผู้ใหญ่บ้านหรอ"

นายสมศักดิ์ พลราชม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 10 เปิดเผยว่า วันนี้ตำรวจก็ได้ตรวจค้นบ้านของตัวเอง และได้ขอสิ่งของในบ้านไปตรวจสอบอาทิ รถมอเตอร์ไซค์ โทรศัพท์ โน้ตบุ๊ก และกล้องวงจรปิด สำหรับมอเตอร์ไซค์คันของตัวเองที่นำไปตรวจสอบนั้น ก็เป็นรถคันเก่าของตัวเองที่ไม่ได้ใช้งานมากว่า 4 สัปดาห์แล้ว ตัวเองก็มีความกังวลอยู่บ้างที่ตำรวจมาตรวจค้นบ้านตัวเอง แต่ตัวเองก็พร้อมให้ความร่วมมือ เพราะตัวเองบริสุทธิ์ใจ ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมายังป่าช้าวัดบ้านคำบอน ตำบลน้ำจั้น อำเภอเซกา จังหวัดบึงกาฬ เวลา 15.00 น. ทางครอบครัวผู้เสียชีวิต ได้นิมนต์พระสงฆ์มาทำพิธีเก็บอัฐิของผู้เสียชีวิต ตามความเชื่อของชาวอีสาน โดยตัวแทนผู้ชายในหมู่บ้าน ได้ไปนำกระดูกผู้ตายในเมรุมาไว้ในสังกะสี จากนั้นนางอินถวา บุญปากดี อายุ 50 ปี ภรรยาของผู้เสียชีวิต ได้มาทำการเลือกกระดูกของผู้ตายในส่วนที่สำคัญ เพื่อเอาไปล้างน้ำหอม แล้วนำมาใส่โกศ โดยระหว่างที่ภรรยาผู้ตายไปเลือกกระดูกของสามีใส่โกศนั้น ได้ร้องไห้ฟูมฟาย พร้อมกับพูดว่า "สู่สุคตินะพี่ ใครทำอะไรก็ให้เขาได้อย่างนั้น ให้เขาไปรับกรรมในคุก อโหสิกรรมให้เขานะพี่"

หลังจากทำพิธีประกอบร่างในเถ้ากระดูกเสร็จ ชาวบ้านได้นำเสื้อ กางเกง รองเท้า และผ้าขาวม้า ที่สวมใส่ให้กับรูปปั้นเถ้ากระดูก มาสวมใส่ให้กับลูกชายของผู้เสียชีวิต เพื่อเป็นสื่อกลางพาวิญญาณผู้ตายกลับบ้าน โดยลูกชายของผู้ตาย จะต้องสวมชุดดังกล่าว แล้วเดินจากป่าช้าจุดที่เผาศพไปที่บ้าน โดยระหว่างทางต้องห้ามพูดคุยกับใคร พอถึงบ้านก็ให้ลูกชายผู้ตายทานข้าว และฟังพระสวด เพื่อให้ดวงวิญญาณของผู้ตายไปสู่สุคติ จึงเป็นอันเสร็จพิธี

นางอินถวา บุญปากดี อายุ 50 ปี ภรรยาผู้ตาย เปิดเผยว่า วันนี้ตัวเองได้ทำพิธีเก็บอัฐิกระดูกของสามี เพื่อนำไปบำเพ็ญกุศลต่อไป ตัวเองได้พูดบอกสามีว่า ให้สามีอโหสิกรรมให้กับคนร้าย เพราะไม่อยากให้สามีจองเวรจองกรรมกับผู้ก่อเหตุ อยากให้สามีไปสู่สุคติ

ทั้งนี้ ตัวเองเชื่อมั่นในการทำงานของตำรวจ เชื่อว่าตำรวจทำงานเต็มที่ เพราะตำรวจทำงานมาตั้งแต่วันแรก ตัวเองอยากขอบคุณตำรวจทุกนายที่ช่วยตัวเอง ตัวเองคิดว่าการกระทำของคนร้ายที่เขาทำกับสามีตัวเองแบบนี้ เหมือนกับเขาไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ตัวเองอยากให้ตำรวจทำให้คนร้ายได้เห็นว่าตำรวจไทยก็มีฝีมือ ส่วนกรณีที่คนร้ายเอาเสื้ออุดปากสามีนั้น ตัวเองคิดว่าเขาอุดปากเพื่อไม่ไห้สามีร้องขอความช่วยเหลือใครได้ ไม่คิดว่าเป็นเรื่องของการทำพิธีไสยศาสตร์แต่อย่างใด






https://www.amarintv.com/news/detail/104274

« PREV
NEXT »

ไม่มีความคิดเห็น