แก๊งค้ายาบ้าชาวไทย รับยาบ้าจากชาวลาวบนถนนสาย 212 บึงกาฬ-บ้านแพง เพื่อส่ง จ.หนองบัวลำภู และขอนแก่น ถูก จนท.หลายหน่วยงานขับรถไล่ล่าใช้รถยนต์ปิดหัวท้ายจนมุมกลางสะพาน จับผู้ต้องหา 2 คน รถยนต์ 1 คันขนยาบ้า 160,000 เม็ดรับสารภาพจะได้ค่าจ้าง 50,000 บาท
เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 7 ก.ค. พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.3 บก.ป.ว่าจะมีการลักลอบนำยาเสพติดจากประเทศ สปป.ลาว โดยท้าวจอนนี่ หรือ กุ้งฯ นำยาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) มาส่งให้กลุ่มผู้ค้าชาวไทย ที่บริเวณถนนเลียบฝั่งแม่น้ำโขงเชื่อมต่อถนนหมายเลข 212 สายบึงกาฬ-บ้านแพง พื้นที่หมู่บ้าน ต.ดงบัง อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ จึงได้สั่งการให้ พ.ต.ท.สิทธิพร มีอาษา สว.กก.3 บก.ป., นำกำลังประสานกับ,พ.อ.จักรพงษ์ โพธิ์นาแค ผบ.บก.ควบคุมที่ 2 (ร.13) พ.ต.อ.ธำรงชัย ไล้ทองดี ผกก.สภ.เซกา, พ.ต.ท.เทอดศักดิ์ โคตรศรีวงษ์ ผบ.ร้อย ตชด.244 และพ.ต.ต.วิษณุ จินาวงษ์ สว.ตำรวจน้ำบึงกาฬ วางแผนจับกุม
กระทั่งประมาณ 5 ทุ่ม ขณะที่ชุดจับกุมประกอบด้วย พ.ต.ท.สิทธิพร มีอาษา สว.กก.3 บก.ป., ด.ต.อัครรัฐ อรรคบาล, ด.ต.สนทยา บัวถนอม กก3 บก.ป.พร้อมด้วย ร.ต.ฉัตรชัย ชาญเขว้า ผบ.มว.สกัดกั้นที่ 1 กกล.สุรศักดิ์มนตรี, ร.ท.วิทยากร ศักดิ์ดาเดช ผบ.ร้อย ทพ.2107, ร.ต.อ.ปกรณ์ จันทวงษ์ศรี ผบ.มว.ฉก.ตชด.2442, ร.ต.อ เชษฐา ชัยนุวงษ์ รอง สว.สส.สภ.เซกา, ด.ต.ไพโรจน์ ลับดี ผบ.หมู่ ป.ตำรวจน้ำบึงกาฬ พร้อมพวกได้กระจายกำลังดักซุ่มตามจุดต่างๆ และได้วางกำลังสังเกตการณ์อยู่ที่บริเวณสี่แยกไฟแดงบ้านดงบัง พื้นที่หมู่บ้านดงบัง ต.ดงบัง ชุดหนึ่ง ได้พบเห็นรถยนต์เก๋งยี่ห้อ มิตซูบีซิ รุ่นแอ็ดทราจ สีขาว ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ขับขี่มาจากทิศทาง อ.บ้านแพง มุ่งหน้ามาทางถนนสี่แยกดงบัง แล้วเลี้ยวซ้ายมุ่งหน้าไปทาง อ.บึงโขงหลงฯ ด้วยความเร็ว และมีรถยนต์กระบะตอนครึ่งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้แชมป์ สีเทา ทะเบียน ผท 1476 อุดรธานี ขับขี่ไล่หลังกันมาห่างๆ จึงได้ขับรถยนต์ไล่ติดตาม และขับแซงประกบข้างพร้อมได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่เพื่อขอทำการตรวจค้น เมื่อได้รู้มีรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ขับไล่ติดตาม รถต้องสงสัยเร่งความเร็วพยามขับหลบหนีไปทิศทางถนนสาย เซกา-หนองหิ้ง-อ.คำตากล้า จ.สกลนคร จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่อีกชุดที่ดักอยู่ด้านหน้าใช้รถยนต์ปิดกั้นบนสะพานข้ามแม่น้ำสงคราม และใช้รถยนต์ไปกั้นด้านท้ายเอาไว้ ไปไหนไม่ได้ จากนั้นได้เรียกให้บุคคลภายในรถต้องสงสัยลดกระจกลง และให้เปิดประตูลงมาจากรถ กว่า 10 นาที คนขับจึงยอมเปิดประตูรถลงมา ทราบชื่อนายชาลัน หรือลัน ไชยสุระ อายุ 48 ปี บ้านเลขที่ 10 หมู่ที่ 9 บ้านโคกสว่าง ต.พะทาย อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม และ นายอภิชิต หรือบอย บุญแก้ว อายุ 26 ปีคนนั่งข้าง อยู่บ้านเลขที่ 76 หมู่ที่ 9 ตำบลเดียวกัน ตรวจค้นภายในพบกระสอบปุ๋ยสีเขียว จำนวน 1 กระสอบ ห่อหุ้มด้วยผ้าห่มปิดทับวางอยู่เบาะนั่งด้านหลัง แกะออกดูพบก้อนวัตถุห่อหุ้มด้วยกระดาษไขมันสีน้ำตาลบันทึกภาษาอังกฤษ “Y1” จำนวน 80 ก้อน ด้านในบรรจุยาบ้าเม็ดสีส้มและยาบ้าเม็ดสีเขียวของกลางรวมจำนวนทั้งสิ้น 160,000 เม็ด พบโทรศัพท์มือ จำนวน 3 เครื่อง ซุกซ่อนอยู่ที่บริเวณเกียร์รถ ส่วนรถเก๋งขับนำหน้าได้วิ่งหลบหนีไปได้ก่อน
นายชาลันได้ให้การเบื้องต้นว่า ได้ติดต่อกันทางอีเมลเฟสบุ๊คชื่อ“คนพะเนจอน เร่ร่อนตามความฝัน” กับท้าวจอนนี่ หรือกุ้ง ราษฎร สปป.ลาว ได้ว่าจ้างให้ตนเดินทางมารับยาบ้าของกลางไปส่งต่อให้กับกลุ่มเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดชาวไทยแต่ไม่ทราบชื่อ ในพื้นที่ปลายทาง จ.หนองบัวลำภู และจ.ขอนแก่น โดยจะได้รับค่าจ้าง เป็นจำนวน 50,000 บาท จะจ่ายให้ในภายหลังเมื่อส่งยาบ้าให้กับกลุ่มเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดคนไทยแล้วเสร็จ จากนั้นจึงได้ติดต่อกับนายอภิชิตฯ ให้มาเป็นเพื่อนจะแบ่งค่าจ้างให้ภายหลัง โดยมี นายวันดีหรือเอ๋ ศรีวรสาร จะเป็นคนขับรถยนต์ยี่ห้อมิตซูบีซิ รุ่นแอ็ดทราจ สีขาว ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน นำทางหรือสำรวจเส้นทางล่วงหน้าให้ แต่มาถูกจับกุมได้เสียก่อน นำตัวไปตรวจหาสารเสพติด ที่ รพ.บึงโขงหลง นายลันไม่พบสารเสพติดแต่นายอภิชิต เป็นลบ จึงถูกแจ้งข้อหา“ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อการค้า อันเป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายต่อประชาชน โดยไม่ได้รับอนุญาต”และนายอภิชิตมีข้อหาเสพยาเสพติดฯอีกกระทง นำผู้ต้องหาทั้ง 2 และของกลางทั้งหมดส่ง พ.ต.ท.สมชัย ขมิ้นทอง พนักงานสอบสวน สภ.เซกา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายการต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น