ลักลอบทำและปลอมแปลงในไทยและลาว ราคา 40,000-70,000 บาท และรับซื้อรถกระบะมาอย่างถูกต้องในราคา 2-3 แสนบาท ก่อนนำไปขายต่อที่ สปป.ลาว คันละประมาณ 3.5 แสนบาท ขึ้นอยู่กับสภาพรถ
ผบช.สตม.แถลงผลจับกุมคนไทยซื้อรถกระบะมือสองในราคาไม่แพง ก่อนลักลอบข้ามฝั่งไปขายให้ สปป.ลาว ฟันกำไรกว่า 5 หมื่นบาทต่อคัน และอีกคดีรวบหนุ่มไทยเอเย่นต์รับจ้างปลอมหนังสือรับรองของทางการ สปป.ลาว เพื่อจดทะเบียนสมรสกับคนไทย ให้อยู่ไทยได้นาน 1 ปี
ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 20 ต.ค. พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ รอง ผบช.สตม. พ.ต.อ.พัลลภ สุริยกุล ณ อยุธยา รอง ผบก.ตม.4 พ.ต.อ.เศรษฐภัทร ณ สงขลา ผกก.สส.บก.ตม.4 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ตม.4 แถลงข่าวจับกุม นายเชษฐ ไชยมาตย์ อายุ 61 ปี และนายบัณฑิตย์ องอาจ อายุ 70 ปี สองผู้ต้องหาขบวนการนำรถกระบะนำไปขายต่อที่ สปป.ลาวอีกทอดหนึ่งอย่างผิดกฎหมาย ดำเนินคดีข้อหา “พยายามลักลอบนำรถยนต์ออกนอกราชอาณาจักร”
พล.ต.ท.สมพงษ์เผยว่า เมื่อวันที่ 19 ต.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ บก.ตม.4 กำลังปฏิบัติหน้าที่บริเวณด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 จ.นครพนม ระหว่างนั้นมีชาวไทย ทราบชื่อต่อมาคือ นายเชษฐ ไชยมาตย์ กำลังขับรถกระบะ โตโยต้า ไฮลักซ์ สีบรอนซ์ เพื่อข้ามไปฝั่ง สปป.ลาว เจ้าหน้าที่สังเกตในรถไม่มีสิ่งของเครื่องใช้จำเป็นในการเดินทางเลย จึงขอตรวจสอบเอกสารการครอบครอง รถ พบว่ามีการซื้อขายถูกต้อง แต่มีการโอนกรรมสิทธิ์เสร็จภายในวันที่กำลังจะไป สปป.ลาว เลยตรวจสอบข้อมูลในระบบพบนายเชษฐเคยนำรถยนต์ออกจากไทย 2 ครั้ง ช่วงเดือน ธ.ค.2561 แต่เดินทางกลับเรือโดยสาร ไม่มีการแจ้งและนำรถกลับมาด้วยจึงจับกุม
พ.ต.อ.เศรษฐภัทรเผยว่า เบื้องต้นสอบสวนนายเชษฐรับว่ารับซื้อรถกระบะมาอย่างถูกต้องในราคา 2-3 แสนบาท ก่อนนำไปขายต่อที่ สปป.ลาว คันละประมาณ 3.5 แสนบาท ขึ้นอยู่กับสภาพรถ หลังจากขายให้ลูกค้าชาวลาวแล้วจะทำเป็นโอนกรรมสิทธิ์รถให้นายบัณฑิตย์ องอาจ เป็นผู้ครอบครอง เพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่จับกุมได้
ผบช.สตม.เปิดเผยอีกว่า อีกคดีที่เกี่ยวข้องกับ สปป.ลาว เมื่อวันที่ 19 ต.ค. ตำรวจ บก.ตม.4 จับกุมนายณรงค์ศักดิ์ แก้วแสนเมือง อายุ 52 ปี บริเวณ ต.โพธิ์ชัย อ.เมือง จ.หนองคาย เอเย่นต์คนไทยรับจ้างปลอมหนังสือรับรองของทางการ สปป.ลาว เพื่อจดทะเบียนสมรสกับคนไทย ให้อยู่ไทยได้นาน 1 ปี
พ.ต.อ.พัลลภกล่าวว่า ทาง บก.ตม.4 ได้รับแจ้งข่าวทางลับว่ามีขบวนการปลอมแปลงเอกสารทางราชการ หรือหนังสือรับรองจาก สปป.ลาว เพื่อนำมาใช้เป็นเอกสารในการจดทะเบียนสมรสกับคนไทย จะสามารถอยู่ประเทศไทยได้นาน 1 ปี พร้อมมีลงโฆษณาเว็บไซต์ด้วย จึงประสานทางการ สปป.ลาว ร่วมตรวจสอบข้อมูลพบว่า มีคู่รักไทยลาวกว่า 1,900 คู่ที่ขอจดทะเบียน แต่เมื่อตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่า ที่จดถูกต้องมี 1,600 คู่เท่านั้น จึงทราบว่ามี 300 คู่ที่ไม่ถูกต้อง
“ต่อมาทางการไทยตรวจสอบใน 20 จังหวัดภาคอีสาน เบื้องต้นพบเพียง 7 คู่ แบ่งเป็น จ.อุบลราชธานี 4 ราย และ จ.อุดรธานี 3 ราย จึงประสานคู่รักทั้งหมดเข้าให้ข้อมูล โดยให้ข้อมูลว่ามีเอเย่นต์ คือ นายณรงค์ศักดิ์ สามารถทำเอกสารดังกล่าวได้ ซึ่งเอกสารดังกล่าวลักลอบทำและปลอมแปลงในไทยและลาว ราคา 40,000-70,000 บาท ต่อมา บก.ตม.4 จับกุมนายณรงค์ศักดิ์ ก่อนผู้ต้องหาอ้างว่าเป็นแค่ตัวกลางคนไทยส่งข้อมูลคนที่ต้องการทำเอกสารปลอมให้กับพรรคพวกชาว สปป.ลาว อีกทอดหนึ่ง เมื่อได้เอกสารมาจะส่งต่อนำไปให้คนที่ติดต่อซื้อเอกสารดังกล่าว เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน” นำส่ง พงส.สภ.เมืองอุดรธานี พร้อมขยายผลร่วมกับทางการ สปป.ลาว จับกุมขบวนการต่อไป” พ.ต.อ.พัลลภกล่าว
Cr.Thairath - ไทยรัฐออนไลน์
บึงกาฬ//ข่าว : ทีมข่าวบึงกาฬบอร์ด
ไม่มีความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น