เมื่อวันที่ 10 ก.พ.63 พ.ต.ท.พิชัย เชิดชู รองผกก.สภ.โพธิ์กลาง หัวหน้าพนักงานสอบสวน สภ.โพธิ์กลาง กล่าวว่า ได้ให้เจ้าพนักงานสอบสวนสอบปาก ผู้เกี่ยวข้องไปแล้ว 10 กว่าปาก กรณีจ่อยิงที่บ้านถนนหัก ตอนนี้ จนท.กำลังเร่งทำงานอยู่ ต้องขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ฯ ทำงานก่อน จึงยังไม่สามารถสรุปสำนวนในตอนนี้ได้ ส่วนชนวนเหตุเป็นเรื่องในสำนวนคดี ยังไม่สามารถเปิดเผยได้เช่นกัน ทั้งนี้ อาจมีข้อมูลหลายทางถึงมูลเหตุจูงใจที่ จ่าสิบเอก จักรพันธ์ ถมมา ทหารสังกัดกองพันสรรพาวุธกระสุนที่ 22 กองบัญชาการช่วยรบที่ 2 กองทัพภาคที่ 2 นำไปสู่การก่อเหตุที่รุนแรงจนมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากปมปัญหาหนึ่งนั้น คือ หนี้สินเรื่องนายหน้าค้าที่ดิน
จากการตรวจสอบพบว่า ผู้ก่อเหตุเป็นนายหน้าให้แม่ยายผู้บังคับบัญชา ยศพันเอก สังกัดกองบัญชาการช่วยรบที่ 2 โดยการชักนำเพื่อนให้มาซื้อที่ดิน หรือ บ้านจัดสรร โดยเพื่อนจะได้รับค่าส่วนต่าง และตนเองจะได้รับค่านายหน้า แต่ระยะหลังกลับพบว่า มีการค้างจ่ายเงินค่านายหน้าหลักแสนบาท และ ยังมีนายหน้าคนใหม่เข้ามามีบทบาท จึงได้นัดเคลียร์ปัญหากัน แต่ตกลงกันไม่ได้จนนำไปสู่การสังหารโหด
รายงานข่าวระบุว่า หนึ่งในมูลเหตุที่เชื่อว่า นำไปสู่การสังหารเพราะเจ้าของบ้านติดค้างเงินค่านายหน้ากับผู้ก่อเหตุ และมีการทวงเงินตลอด 1 ปีที่ผ่านมา จ่าสิบเอกจักรพันธ์ ถมมา เป็นนายหน้าที่ดิน และ ขายบ้านจัดสรรให้นางอนงค์ฯมานานกว่า 2 ปี โดยการชักชวนเพื่อนในกองทัพภาคที่ 2 ให้มาซื้อที่ดิน หรือ ซื้อบ้าน โดยเพื่อนจะได้เงินค่าส่วนต่างคืนครึ่งหนึ่ง จากยอดกู้เงินสวัสดิการ และ จ่าสิบเอกจักรพันธ์ จะได้รับค่านายหน้าเป็นรายครั้ง แต่ระยะหลังกลับไม่จ่ายเงินตามกำหนด และค้างจ่ายจนมียอดสะสมหลักแสนบาท ขณะที่อีกประเด็นคือการบีบบังคับให้ผู้ก่อเหตุจำยอม โดยการนัดเคลียร์ปัญหาที่บ้านนางอนงค์ฯ โดยมีผู้บังคับบัญชารับรู้ ทั้งเรื่องเงินค้างจ่าย และ นายหน้าคนใหม่
ทั้งนี้ยังมีข้อมูลจากเพื่อนทหารสังกัดกองทัพภาคที่ 2 อ้างว่า ผู้ก่อเหตุเคยบ่นถึงปัญหาหนี้สิน และอ้างว่า ถูกโกง จึงเชื่อว่าเป็นหนึ่งในสาเหตุ ก่อนตัดสินใจก่อเหตุสะเทือนขวัญครั้งนี้ ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลสามีนางอนงค์ ที่ระบุถึงการค้างจ่ายเงินระหว่างภรรยากับผู้ก่อเหตุ ซึ่งที่ผ่านมาได้ทยอยจ่ายคืนจนครบ และ ก้อนล่าสุดอีก 5 หมื่นบาทก็ฝากนายหน้าคนใหม่ไปให้ แต่ผู้ก่อเหตุอาจจะยังไม่ได้รับ และเข้าใจว่าถูกโกง จึงตัดสินปัญหาด้วยความรุนแรง
ด้านนางแต๋ว (สงวนชื่อนามสกุล) เปิดเผยว่า ตนนั้นรู้จักกับนางอนงค์ มิตรจันทร์ (ผู้ตายรายแรก) มาเป็นเวลานาน โดยนางอนงค์เป็นคนจัดสรรที่ดินในค่ายทหาร เอามาขายให้กับคนที่สนใจซื้อที่ดิน นางอนงค์จะขายที่ราชพัสดุให้กับทหารในราคา 1 ล้าน 5 แสนบาท ซึ่งคนที่จะซื้อต้องนำเงินมาให้นางอนงค์ และนางอนงค์ต้องนำเงินนั้นไปจ่ายให้กรมสวัสดิการ กรมสวัสดิการจะคืนเงินส่วนต่างมาให้ 4-5 แสนบาทให้กับคนซื้อ (เนื่องจากเป็นสวัสดิการของทหารสำหรับผู้ที่ครอบครอง )
ในกรณีของจ.ส.อ.จักรพันธ์ ถมมา ที่ได้ซื้อที่ดินกับนางอนงค์ แต่นางอนงค์ ไม่ได้คืนส่วนต่างให้ อ้างว่าเงินส่วนนั้นอยู่กับนายหน้าซื้อขายที่ดิน ซึ่งจ.ส.อ.จักรพันธ์ ก็พยายามมาทวงถามตลอด จนทำให้จ.ส.อ.จักรพันธ์ ถูกผู้บังคับบัญชาบางคนสั่งขัง ทำโทษและหักเบี้ยเลี้ยงตลอด เลยทำให้จ.ส.อ.จักรพันธ์ เกิดความเครียด กดดันและเก็บกด เมื่อล่าสุดนางอนงค์ นัดหมายให้ไปเคลียร์เรื่องเงิน พอไปถึงก็ไม่ได้ตามที่ตกลงกันไว้ จึงได้ก่อเหตุดังกล่าวขึ้น
แต่ก่อนนางอนงค์ ไม่ได้มีฐานะร่ำรวยมากนัก แต่เพิ่งมามีฐานะในช่วงเริ่มขายที่ดิน ตนเองก็เคยจัดสรรที่ดินกับนางอนงค์ แต่นางอนงค์ไม่คืนเงินในส่วนของตนที่จะได้จำนวน 20,000 บาท ตนไม่รู้ว่าที่ผ่านมา นอกจากตน จ.ส.อ.จักรพันธ์ แล้วยังมีใครที่มาซื้อที่จัดสรรกับนางอนงค์แล้วยังไม่ได้เงินคืนอีกบ้าง
ที่มา : https://www.matichon.co.th/region/news_1962166
ไม่มีความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น