เมื่อวันที่ 31 มี.ค. 63 เวลา 11:30 น พ.ต.ท.สุริยา แน่นอุพำ รอง.ผกก.สว (สอบสวน) สภ.บุ่งคล้า อ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ รับแจ้งมีเหตุยิงกันที่บ้านเลขที่ 59 หมู่ 3 บ้านหาดแฮ่ ตำบลโคกกว้าง อำเภอบุ่งคล้า จังหวัดบึงกาฬ จึงรายงานให้ พ.ต.อ.พีระวุฒิ สุวรรณประสิทธิ์ ผกก.ทราบ เดินทางไปยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.ท.ธานินท์ จินดามณี รอง ผกก.ป.พ.ต.ท.สาโรจน์ ภมร รอง ผกก.สส.พ.ต.ท.ไกรรัตน์ ตามบุญ สว.สส.พ.ต.ท.กิตติศักดิ์ โพธิ์ศรี สวป.นำกำลังชุดสายตรวจพร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยสว่างศรีวิไลไปยังที่รับแจ้งจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวใต้ถุนสูง พบนายกานี เห็มสิงห์ อายุ 76 ปี ผู้เป็นมือปืนและพ่อผู้ถูกยิงถืออาวุธปืนลูกซองยาว 5 นัดของ อปพร.ยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนในรังเพลิงกระสุนถูกยิงออกไปแล้ว 1 นัด คงเหลือ 4 นัดจึงเก็บปลอกกระสุนขนาดเบอร์ 12 เอาไว้ ส่วนลูกชายผู้ก่อเหตุที่ถูกยิงเข้ากลางหลังทะลุหน้าอกญาติและหน่วยกู้ภัยนำส่ง รพ.บุ่งคล้า ทราบชื่อ นายณวพล หรือนุ เห็มสิงห์ อายุ 43 ปี ได้เสียชีวิต ในเวลาต่อมาเพราะทนพิษบาดแผลไม่ไหว ที่สนามหญ้าข้างบ้านพบกองเลือดจำนวนหนึ่งกองอยู่และมีดพร้ายาวประมาณ 1 ฟุตตกอยู่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนนายกานี พ่อและมือปืน ทราบว่า ลูกชายที่ถูกยิงมีอาชีพเป็นนักจัดรายการวิทยุอยู่ที่คลื่น 98.25 เมกะเฮิรตซ์ ใช้ชื่อจัดรายการเพลงว่า “นุณวพล” มักขโมยเอาข้าวเปลือกในเล้าไปขายคราวละ 4-5 กระสอบ และขโมยเงินไปซื้อยาเสพติด ชอบเสพยาเสพติดประเภทกัญชา เมาแล้วขาดสติมักอาละวาดทำลายข้าวของจนแตกหักตู้เสื้อผ้าเก็บสิ่งของพังหลายอย่าง ใครๆ เข้าห้ามก็ไม่หยุดเชื่อฟัง แม้แต่ตนผู้เป็นพ่อห้ามปรามยังถูกทำร้ายมาเป็นระยะเวลาถึง 6 ปีแล้ว บางครั้งก็นำน้ำกรดไปเทลงใส่ในอ่างน้ำ บ่อน้ำกินและถังเก็บน้ำดื่ม เพื่อหวังจะฆ่าพ่อและแม่ให้ตายอย่างเลือดเย็น
ก่อนเกิดเหตุวันนี้ก็เช่นเดิมอาละวาดตั้งแต่ 9 โมงเช้า พ่อก็เข้าห้ามปรามให้หยุดทำลายข้าวของเสียหาย แต่กลับไปคว้าเอามีดพร้าไล่ฟันตนเองจนต้องวิ่งหนีรอบบ้าน โชคดีวิ่งหนีขึ้นไปบนบ้านทันแล้วปิดประตูทางขึ้น พร้อมกับคว้าเอาปืนลูกซองยาวของทางราชการที่ตนครอบครองอยู่ยิงสวนลงมาจากหน้าต่าง ถูกกลางหลังลูกชายจนล้มฟุบลงกับพื้นดิน และเสียชีวิตดังกล่าว ถือว่าหมดเวรกรรมต่อกัน ซึ่งตนก็ยินดีรับโทษตามกฎหมาย จึงถูกแจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ควบคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ข่าวต้นฉบับ
ไม่มีความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น