วันที่ 2 ธ.ค.64 เวลา 10.00 น. ที่บริเวณศาลากลางหมู่บ้านโนนสว่าง ม.4 ต.ศรีสำราญ อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ นายปัญญา ฤทธิ์ภู ผอ.รพ.สต.ศรีสำราญ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ รพ.สต. ร่วมกับ อสม. ออกตรวจคัดกรองกลุ่มเสี่ยงสูงที่อยู่ระหว่างการกักตัว โดยการ(สวอป swap)จมูกและปาก เพื่อนำตัวอย่างส่งตรวจแบบละเอียด RT-PCR ซึ่งคลัสเตอร์นี้พบผู้ติดเชื้อแล้ว 26 คน ส่วนมากเป็นเด็กและผู้สูงอายุ เสี่ยงสูงอีกกว่า 112 คน
นพ.ภมร ดรุณ นพ.สสจ.บึงกาฬ เผยว่า พบผู้ป่วยยืนยัน +23 คน ยอดผู้ป่วยรักษาหายวันนี้ 19 คน กำลังรักษา 136 จำนวนผู้ติดเชื้อในจังหวัดสะสม 2,323 คน ผู้เสียชีวิตสะสมในจังหวัด 18 คน วานนี้มีผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 1 คน (เพศหญิง อายุ 78 ปี จากคลัสเตอร์เกี่ยวข้าว มีโรคประจำตัวคือ โรคปอดอักเสบ ยังไม่เคยรับวัคซีนโควิด-19 ระยะเวลาเข้ารับการรักษา ระหว่างวันที่ 9-30 พ.ย.)
การติดเชื้อในพื้นที่ ส่วนใหญ่เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจากผู้ป่วยโควิด-19 เป็น บุคคลในครอบครัวหรือผู้ใกล้ชิด และไปมาหาสู่กันเป็นประจำ ซึ่งขณะนี้มีการระบาดใน 4 อำเภอ
(1) อ.พรเจริญ ต.ศรีสำราญ 6 คน ซึ่งเป็นคลัสเตอร์ใหม่ที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงวันที่ 26 พ.ย. 64 ที่ผ่านมา (คลัสเตอร์ ต.ศรีสำราญ) การติดเชื้อเกิดจากการร่วมกลุ่มกันทำกิจกรรมของคนในหมู่บ้านและต่างหมู่บ้าน โดยวันนี้มีการตรวจเชิงรุก RT-PCR ของคนในหมู่บ้านโนนสว่าง และบ้านหนองลาด กว่า 112 คน (รอผลตรวจ) ซึ่งพบผู้ติดเชื้อแล้ว 26 คน เฝ้าระวังอาการอีก 112 คน โดยส่วนใหญ่ไม่รับวัคซีน สอดคล้องกับคลัสเตอร์อื่นในจังหวัด พื้นที่ใดรับวัคซีนน้อยจะมีการระบาดหนักและเป็นวงกว้าง
(2) อ.เมืองบึงกาฬ ต.วิศิษฐ์ พบผู้ติดเชื้อที่แคมป์คนงานก่อสร้างสะพานไทย-ลาว จำนวน 6 คน แยกเป็นผู้ที่เดินทางไป-กลับ(ทำงาน) สปป.ลาว จำนวน 3 คน เดินทางกลับไปเยี่ยมครอบครัวที่ จ.ลำปาง 1 คน และพนักงานออฟฟิศ 2 คน ซึ่งรับประทานอาหารร่วมกัน และผู้ป่วยตึกศัลยกรรม รพ.บึงกาฬ อีกจำนวน 7 คน เป็นผู้ที่กำลังรับการรักษาเป็นผู้ป่วยในและญาติผู้ดูแล ทำให้โรงพยาบาลบึงกาฬ ต้องประกาศด่วนขอให้คนไข้และญาติที่เข้ารับการรักษาที่ตึกศัลยกรรมหญิง เมื่อวันที่ 22-30 พ.ย. ให้เข้ารับการตรวจโควิดที่โรงพยาบาลใกล้บ้านโดยด่วน
(3) อ.ปากคาด ต.นากั้ง 2 คน เป็นผู้สัมผัสเสี่ยสูงของผู้ป่วยในหมู่บ้านที่ทำกิจกรรมร่วมกัน
(4) อ.โซ่พิสัย ต.ศรีชมภู 2 คน เป็นผู้ที่เดินทางไปทำกิจธุระที่ จ.อุดรธานี 1 คน และเพื่อนกินอาหารด้วยกัน 1 คน
ซึ่งผู้ป่วยทั้งหมดมาจากระบบเฝ้าระวังในโรงพยาบาล การตรวจเชิงรุกเฝ้าระวังในกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่อยู่ระหว่างกักกัน ผู้ที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด ซึ่งผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นนี้ มาจากสัมผัสผู้ป่วยในครอบครัว/หมู่บ้าน ที่ยังอยู่ในระยะการเฝ้าระวัง
สำหรับสิ่งที่อยากฝากถึงพี่น้องประชาชน ขอให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ด้วยการเว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ สวมใส่หน้ากากอนามัย เวลาไปในที่ชุมชน หรือเวลาพูดคุยกับเพื่อนบ้าน และขอเตือนประชาชนทุกคนว่า เวลาที่มีการรับประทานอาหารร่วมกัน บางคนดื่มน้ำกระติกเดียวกัน หรือมีการสังสรรค์กัน จะทำให้เกิดการติดเชื้อได้ง่ายและเป็นวงกว้าง ดังนั้นขอให้พี่น้องประชาชนยังคงต้องป้องกันตนเองให้ดีที่สุด ยกการ์ดให้สูงเช่นเดิมอย่างที่เคยเป็นมา แม้ว่าเราจะฉีดวัคซีนแล้วก็ตาม เพราะไม่เช่นนั้นแล้วก็จะทำให้เกิดการแพร่ระบาดในพื้นที่เช่นนี้ หากติดเชื้อขึ้นมาก็ต้องพักรักษาตัวถึง 14 วัน เป็นการเสียเวลาและพี่น้องคนอื่นๆที่เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำเสี่ยงสูง ก็ต้องมีการกักตัวด้วย เพราะฉะนั้นการป้องกันตนเองที่ดีที่สุด คือการดูแลตัวเองตามมาตรการทางสาธารณสุข การทำกิจกรรมที่มีการสัมผัสร่วมกันในช่วงนี้ก็ควรงดเว้นไปก่อน ถือว่าเป็นการให้ความร่วมมือซึ่งกันและกัน เพื่อลดการแพร่ระบาดในจังหวัด และแม้ว่าจะมีการผ่อนคลายหลายๆอย่าง ก็ขอให้ทุกคนยังคงต้องป้องกันตนเองอย่างสูงสุดเสมอ
https://news.ch7.com/detail/533652
ไม่มีความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น