"บึงกาฬ"สั่งปิดไม่มีกำหนด คลัสเตอร์สถานบันเทิง คลัสเตอร์ตลาดคับคั่ง โควิดลามไปหลายอำเภอ ล่าสุดยอดติดเชื้อพุ่ง 130 ราย ผู้เสี่ยงสูงอีก 332 ราย
เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 2564 นพ.ภมร ดรุณ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบึงกาฬ เปิดเผยถึงสถานการณ์โควิด-19 ของจ.บึงกาฬ ว่า ปัจจุบันยังคงมีแนวโน้มผู้ป่วยรายวันที่สูงขึ้น และพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้คลัสเตอร์สำคัญที่อยู่ระหว่างการติดตามเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ได้แก่ 1.คลัสเตอร์ร้านอาหารตลาดคับคั่ง มีการให้บริการคล้ายสถานบันเทิง ปัจจุบันพบผู้ติดเชื้อสะสมแล้ว 130 ราย และมีผู้เสี่ยงสูงอีก 332 รายที่อยู่ระหว่างการกักตัว
นอกจากนี้ การระบาดได้ทำให้มีผู้ที่เกี่ยวข้อง และมีร้านอาหาร/สถานบันเทิงที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากมีลูกค้าผู้ใช้บริการ พนักงานเสิร์ฟ และนักร้อง เดินสายไปกันหลายแห่ง ได้แก่ ร้านซิกเนเจอร์, ฉลองบาร์, เซฟโซน, และร้านโรงเหล้า รวมถึงสถานประกอบการที่อยู่นอกอำเภอ เช่น ร้านตะวันแดง ของอำเภอพรเจริญ
นพ.ภมร กล่าวต่อว่า สำหรับร้านที่เกี่ยวข้องทั้งหมดนี้ ทางฝ่ายปกครองของแต่ละอำเภอได้ลงพื้นที่ตรวจตรา และสั่งปิดให้บริการเป็นการชั่วคราวแล้ว เนื่องจากบางแห่งพบการแพร่ระบาดของโรค และไม่ปฏิบัติตามมาตรการ (ห้ามดื่มสุราในร้าน, ต้องเปิดในลักษณะของร้านอาหารเท่านั้น ฯลฯ) ซึ่งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาฝ่ายปกครองทุกอำเภอได้ลงพื้นที่ตรวจตราสถานบริการและร้านอาหารต่างๆ ให้เป็นไปตามมาตรการ ส่วนใหญ่ปฏิบัติตามมาตรการเป็นอย่างดี จะมีบ้างที่ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรการ มีการจำหน่ายสุรา ทางฝ่ายปกครองจึงมีคำสั่งให้ปิดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และไม่กำหนดระยะเวลาเปิด จนกว่าจะมีการประเมินอีกครั้งจากทางอำเภอและจังหวัด เพื่อไม่ให้มีการแพร่ระบาดเหมือนกับกรณีที่เกิดขึ้นล่าสุด
นพ.ภมร กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีผู้ติดเชื้อของร้านอาหารตลาดคับคั่ง พบผู้ป่วยรายแรกตั้งแต่วันที่ 30 พ.ย. 64 ขณะนี้ทั้ง 130 คนกำลังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล เนื่องจากยังไม่ครบ 14 วัน แต่หากครบ 14 วันจะเริ่มทยอยหาย และเป็นที่น่ายินดีคือส่วนใหญ่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว แม้มีการติดเชื้อก็จะไม่มีอาการ หรืออาการน้อยมาก ทำให้คลัสเตอร์นี้แม้จะมีจำนวนผู้ป่วยเยอะ แต่อาการจะไม่ค่อยหนัก และเป็นผู้ป่วยสีเขียวทั้งหมด ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นและวัยทำงาน ทำให้ร่างกายแข็งแรง และไม่ค่อยมีอาการมาก
นพ.ภมร กล่าวต่อว่า แนวโน้มของคลัสเตอร์ตลาดคับคั่งตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 64 ผู้ป่วยจะเริ่มสูงขึ้นรายวัน ตั้งแต่วันที่ 7-9 ธ.ค. และหลังวันที่ 10 ธ.ค. แนวโน้มของผู้ป่วยรายวันจากคลัสเตอร์นี้ก็ลดล’ เพราะมีการปิดสถานที่เสี่ยงแล้วหลายแห่ง ต้องฝากกำชับกลุ่มเสี่ยงที่มาใช้บริการที่ตลาดคับคั่งในช่วงที่ผ่านมา ต้องกักตัวที่บ้านอย่างเคร่งครัด งดการพบปะผู้คนในช่วงนี้ จนกว่าการแพร่ระบาดของคลัสเตอร์จะดีขึ้น
นพ.ภมร กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ คลัสเตอร์ตลาดคับคั่งยังมีการระบาดในอำเภออื่นเพิ่มเติม เช่น อ.บุ่งคล้า มีลูกค้าที่ไปใช้บริการที่ร้านตลาดคับคั่ง และสถานบันเทิงอื่นๆ แล้วกลับบ้านในพื้นที่บ้านนาจาน อ.บุ่งคล้า ทำให้มีผู้สัมผัสร่วมบ้านติดเชื้อส่วนหนึ่ง ก่อนจะกระจายไปในครอบครัวอื่นๆ ปัจจุบันที่บ้านนาจาน อ.บุ่งคล้า มีผู้ป่วยแล้วทั้งหมด 10 ราย เบื้องต้นสันนิษฐานว่ามาจากลูกค้าที่เดินทางไปร้านตลาดคับคั่ง หรือสถานบันเทิงอื่นๆ อีกส่วนหนึ่งสันนิษฐานว่า มาจากลูกหลานที่กลับมาเลือกตั้งในช่วงวันที่ 28 ธ.ค. ซึ่งในจำนวน 10 ราย มีนักเรียนของโรงเรียนบุ่งคล้านคร ทำให้ต้องกักตัวครูและนักเรียนทั้งหมด 46 ราย แต่คลัสเตอร์นี้ยังถือว่าควบคุมเอาไว้ได้
นพ.ภมร กล่าวอีกว่า ส่วนของผู้เสียชีวิตในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย เป็นรายที่ 19 และรายที่ 20 ของ จ.บึงกาฬ ทั้ง 2 รายเสียชีวิตวันที่ 9 ธ.ค. โดยรายแรกเป็นหญิง อายุ 59 ปี มีโรคประจำตัวคือ เบาหวาน และไตวายเรื้อรัง เคสนี้ติดจากคลัสเตอร์ตึกผู้ป่วยใน โรงพยาบาลพรเจริญ มีโรคประจำตัวคือเบาหวานที่ควบคุมน้ำตาลไม่ได้ และมีการติดเชื้อที่ขา ต้องส่งตัวไปรักษาด้วยการตัดขาที่โรงพยาบาลบึงกาฬ เนื่องจากร่างกายไม่แข็งแรง และยังไม่ได้รับวัคซีน เมื่อติดเชื้อโควิด-19 แล้วจึงมีอาการค่อนข้างรุนแรง
นพ.ภมร กล่าวต่อว่า ผู้เสียชีวิตรายต่อมา เป็นชาย อายุ 97 ปี เป็นผู้ป่วยติดเตียง ซึ่งติดเชื้อจากคลัสเตอร์ของ ต.นาสะแบง อ.ศรีวิไล โดยผู้ป่วยรายนี้เป็นผู้สูงอายุ สุขภาพไม่แข็งแรง และยังไม่ได้รับวัคซีน เมื่อมีการติดเชื้อเกิดขึ้นจึงมีโอกาสสูงที่จะเสียชีวิต จากข้อมูลผู้ติดเชื้อที่เสียชีวิตสะสมทั้ง 20 ราย ล้วนเป็นผู้ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน ดังนั้น การฉีดวัคซีนจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการป้องกันการเกิดโรค และป้องกันการเสียชีวิตได้
“ขอให้ประชาชนที่ยังไม่ได้รับวัคซีน ไปรับวัคซีนได้ที่ รพ.สต. หรือโรงพยาบาลใกล้บ้าน นอกจากนี้ จากข้อมูลของผู้ติดเชื้อทั้ง 130 รายจากตลาดคับคั่ง พบว่าส่วนใหญ่ได้รับวัคซีน และแทบไม่มีอาการหลังติดเชื้อ จึงเป็นผู้ป่วยสีเขียวทั้งหมด การควบคุมโรคก็จะเป็นไปได้ง่าย”
นพ.ภมร กล่าวอีกว่า สำหรับสถานการณ์การฉีดวัคซีน ปัจจุบัน จ.บึงกาฬ มีความครอบคลุมในการฉีดวัคซีนแก่ประชาชนเข็มที่ 1 จำนวน 215,487 คน คิดเป็น 58.44% ของประชากร ซึ่งมีประชากรประมาณ 370,000 กว่าคน รวมประชากรแฝง แต่ถ้าคิดตามฐานประชากรที่อยู่จริง จะคิดเป็น 67.91 % ฉีดอีกประมาณ 20,000 รายก็จะครบ 70 %
นพ.ภมร กล่าวต่อว่า ส่วนสถานการณ์เตียงขณะนี้ไม่น่าเป็นห่วง เพราะ จ.บึงกาฬ มีถึง 8 โรงพยาบาล สามารถรองรับได้ถึง 500 เตียง และตอนนี้การครองเตียงอยู่ที่ประมาณ 200 เตียงเท่านั้น และแนวโน้มน่าจะดีขึ้น โดยในวันที่ 13-15 ธ.ค. ผู้ป่วยคลัสเตอร์ตลาดคับคั่งจะเริ่มจำหน่ายออกจากโรงพยาบาลเนื่องจากครบ 14 วันแล้ว น่าจะมีเตียงว่างที่มากขึ้น
“สิ่งที่น่าเป็นห่วง คืออีกไม่นานจะถึงเทศกาลปีใหม่ จากตัวอย่างที่เราได้เห็นการระบาดในร้านอาหารที่มีลักษณะคล้ายสถานบันเทิงในช่วงที่ผ่านมา พบว่าคนที่กินอาหาร สังสรรค์ และดื่มสุรา มักจะมีการใกล้ชิดกัน ส่งผลให้ติดเชื้อได้ง่าย ดังนั้น การฉลองปีใหม่ยังสามารถจัดได้ แต่ขอให้ประชาชนยึดถือมาตรการแบบนิวนอร์มัลอย่างเคร่งครัด” นพ.ภมร ทิ้งท้าย
https://www.khaosod.co.th/covid-19/news_6780874
ไม่มีความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น