เมื่อเช้าวันนี้ (26 ธ.ค) นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ลงพื้นที่กำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค ในพื้นที่เขตตรวจราชการที่ 10 โดยได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการท่องเที่ยวที่ ถ้ำนาคา ในเขตอุทยานแห่งชาติภูลังกา ฝั่งอำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ โดยมีนายสมหวัง อารีเอื้อ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดบึงกาฬ และนายพันธ์ยศ กีรติพงศ์ศักดา หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูลังกา พร้อมเจ้าหน้าที่ ร่วมให้การต้อนรับ และให้ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว และการจัดการด้านการท่องเที่ยว ซึ่งหลังจากเดินทางขึ้นถึงถ้ำนาคาแล้ว นายสุพัฒนพงษ์ได้ชื่นชมการบริหารจัดการการท่องเที่ยวของที่นี่ พร้อมร่วมขอพรเบื้องหน้าพระพุทธรูปปางนาคปรกประจำถ้ำนาคา และขอพรต่อพญานาคโดยได้นำศีรษะเข้าไปในบริเวณที่เป็นสะดือพญานาค เพื่อความเป็นสิริมงคล ซึ่งถือเป็นอีกจุดไฮไลท์หนึ่งภายในถ้ำนาคาด้วย
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้ให้สัมภาษณ์หลังเดินทางขึ้นถึงถ้ำนาคาว่า สิ่งแรกหลังจากที่ขึ้นมาถึงถ้ำนาคาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็คือ การหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง เมื่อได้เห็นความงดงามของถ้ำนาคา ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ตนนั้นเชื่อว่าประชาชนคนไทยควรจะหาโอกาสมาเยี่ยมชม แต่ก็จำเป็นที่จะต้องรักษาและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมไว้เป็นอย่างดี การกำหนดจำนวนนักท่องเที่ยว จำนวนวันการจอง ขณะนี้อาจยังมีความจำกัดอยู่ ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะรักษาถ้ำนาคาให้กับคนไทยไว้ตลอดไป ผมจึงเชื่อว่าสถานที่แห่งนี้แม้ว่าจะได้เริ่มเป็นที่รู้จักของประชาชนคนไทยมาในช่วงระยะเวลา 2 ปีนี้ แต่ก็เชื่อว่าจะเป็นสถานที่สำคัญที่คนไทยจะมาเยี่ยมชม และรัฐบาลเอง โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงวัฒนธรรม และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ก็ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ สถานที่แห่งนี้ก็จะถูกพัฒนาให้ดีและเหมาะสมขึ้นไปเรื่อย ๆ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำของประเทศไทย และเป็นสถานที่สำคัญของจังหวัดบึงกาฬ แต่ที่สำคัญมากที่สุดก็จะนำไปสู่การสร้างรายได้ สร้างเศรษฐกิจ ส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และบริการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องของจังหวัดบึงกาฬ ให้เป็นจังหวัดที่มีฐานะทางเศรษฐกิจมากขึ้น
ขณะที่ผู้ประกอบการที่จำหน่ายสินค้าบริเวณถ้ำนาคา บอกกับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากถ้ำนาคาเป็นที่รู้จักมากขึ้น ก็ทำให้สามารถขายของได้มากขึ้น และมีรายได้ที่เพิ่มขึ้นมากด้วย เช่น คุณรดาวรรณ เหล่าทา แม่ค้าขายข้าวเหนียวไก่ทอดและหมูทอด บอกว่า ช่วงนี้มีรายได้เพิ่มขึ้นมากจากการที่นักท่องเที่ยวเข้ามามาก จากปกติที่เริ่มทำหมูทอดแค่ 3-4 กิโลกรัม ณ ปัจจุบันนี้ต้องทำเพิ่มเป็น 12 กิโลกรัม และดูเหมือนจะต้องทำเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยตนนั้นมาขายหมูทอดตั้งแต่ตี 4 จนกระทั่ง 8-9 โมงเช้า ข้าวเหนียวหมูทอดและไก่ทอดก็จะหมด เช่นเดียวกับคุณแม่บัวลอย คนคล่อง แม่ค้าขายลูกชิ้นนึ่ง และน้ำดื่ม ก็บอกว่า ช่วงนี้ขายของดีขึ้นมากเช่นกัน และขายหมดทุกวันโดยเฉพาะลูกชิ้น และน้ำอ้อยสดแช่เย็น โดยหากเปรียบเทียบกับช่วงแรกๆ ช่วงนี้จะขายดีขึ้นเยอะมาก พร้อมสร้างความมั่นใจด้วยว่า พ่อค้าแม่ค้าทุกคนที่นี่ฉีดวัคซีนแล้วทุกคน ขอให้ลูกค้ามีความมั่นใจได้เลย
ส่วนนักท่องเที่ยว ก็ยังคงเดินทางมาเที่ยวถ้ำนาคาอย่างต่อเนื่องและเต็มโควตา 500 คนทุกวัน และเดินทางมาจากทั่วประเทศทั้งใกล้และไกล เช่น คุณธนิกา สุวรรณพงษ์ เดินทางมาจากจังหวัดอุดรธานี บอกว่า รู้สึกตื่นเต้นและถ้ำนาคาก็เหมือนพญานาคมากๆ อยากให้ทุกคนได้มาเห็น ขณะที่ นางสาวสุภาพัช ชูยิ่งสกุลทิพย์ และนางสาวภคมนต์ จิราชัยสกุล นักท่องเที่ยวจากจังหวัดชลบุรี บอกว่า ตอนเดินขึ้นมาก็รู้สึกสนุกดี ซึ่งตอนแรกคิดว่าจะเหนื่อยแต่พอได้มาลองขึ้นจริงๆ แล้วไม่ได้เหนื่อยมากอย่างที่คิดเลย เพราะนอกจากจะสวยแล้ว อากาศยังดีมากด้วย จึงอยากให้ทุกคนมามาลองสัมผัสที่นี่ดูสักครั้งหนึ่งในชีวิต.
บึงกาฬ//ข่าว : นิธิศักดิ์ เศรษฐแสงศรี
ไม่มีความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น