หลายท่านที่เข้าวัดทั่วไปมักจะเห็นป้ายและตู้รับบริจาคค่าน้ำ ค่าไฟฟ้าบ้าง แต่ท่านใดที่เคยไปทำบุญที่วัดป่าดานวิเวก บ้านแสงอรุณ อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ ของหลวงปู่ทุยหรือหลวงปู่ปรีดา ฉนฺทกโร จะเห็นป้ายแปลกไปจากวัดอื่นๆ คือท่านบอกว่าวัดท่านพอ ขอให้เก็บเงินสงเคราะห์พ่อแม่จะได้บุญมากกว่า แต่ปัจจุบันป้ายที่ว่านี้ไม่เห็นหลายคนที่เข้าวัดจึงแปลกใจ ทางมัคทายกวัดมีคำตอบให้
เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 2 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ญาติโยมเคยไปทำบุญที่วัดป่าดานวิเวก (วัดดงศรีชมภู) หมู่ที่ 7 บ้านแสงอรุณ ต.ศรีชมภู อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ เป็นวัดทีพระท่านปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เคร่งครัดในคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และที่วัดแห่งนี้เมื่อหลายเดือนก่อนญาติโยมที่ไปทำบุญที่วัดหลายคนมักจะสะดุดตาเมื่อมองไปเห็นป้ายประกาศที่ทางวัดติดตั้งไว้บนศาลาวัด ทำนองว่าเป็นคำสั่งสอนญาติโยมของท่านหลวงปู่ปรีดา ฉนฺทกโร หรือหลวงปู่ทุยที่รู้จักกันทั่วไป ซึ่งข้อความคำสอนในป้ายประกาศนั้นมีใจความเตือนสติว่า “โยมไม่ต้องมาบริจาคเงินให้วัด โยมเอาเงินไปดูแลพ่อแม่ได้บุญมากกว่าเอามาให้วัด เรื่องเงินน่ะไม่สำคัญ ฆราวาสมีศีล 5 เท่านั้นพอ โยมอย่าเอาไฟฟ้าเข้าวัด เพราะจะทำให้พระต้องมีค่าใช้จ่าย พระไม่มีรายได้อยู่โดยไม่มีไฟฟ้าดีกว่า โยมมาที่วัดขออย่าอึกทึกเสียงดัง มาอยู่วัดให้ทำสมาธิฝึกจิต ได้บุญกว่ามานั่งกราบพระน่ะ นอกจากนี้ยังมีป้ายติดประกาศว่า “แจ้งคณะศรัทธาผู้บริจาค ทางวัดไม่ขาดแคลนในเรื่องใดๆ พระสงฆ์อยู่ด้วยความพอ มีทรัพย์ มีเงินทองเก็บไว้สงเคราะห์ครอบครัวได้บุญเหมือนกัน แต่วันนี้ป้ายข้อความเหล่านี้ไม่เห็นบนศาลาแล้ว คาดว่าคงถูกนำไปเก็บไว้ เพื่อไม่เห็นเกิดเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา
นอกจากนี้ยังมีป้ายประกาศอยู่ตามกำแพงนอกวัด “ข้อควรระวังเฉพาะบริเวณที่ล้อมกำแพง(เขตพระสงฆ์) อนุญาตให้เข้าหาหน่อไม้เห็ดและผักตามเวลาและโอกาสที่เห็นควรอนุญาตให้เช้าเฉพาะผู้ชายสัญชาติไทย นับถือพระพุทธศาสนา มีความซื่อสัตย์สุจริต ช่างเวลาที่อนุญาตเดือน 3- 4 -5 - 6 -7 กลางเดือน 8 ของทุกๆ ปี 1โมงเช้า -9 โมงเช้าทุกๆ วันที่อนุญาต หลังจากหมดเวลาที่กำหนดให้ออกหมด ปริมาณการหาของป่าที่อนุญาตให้นำหน่อไม้ออกได้ไม่เกิน 3 กิโลกรัมต่อหนึ่งคน เห็ดไม่เกิน 2 กิโลกรัมต่อหนึ่งคน ผักไม่เกิน 1 กิโลกรัมต่อหนึ่งคน หมายเหตุ ห้ามใช้วิธีการใดทำร้ายสัตว์ทุกชนิดในเขตอภัยทานทุกเวลาและห้ามนำไปทำการซื้อขายทุกกาลเวลาตลอดไป ผู้ใดฝ่าฝืนห้ามเข้าเขตพุทธสถานทรัพยากรวัดแสงอรุณ(วัดป่าดานวิเวก)ตลอดชีวิต ประกาศลงวันที่ 4 เดือนมิถุนายนพุทธศักราช 2562
นอกจากนี้ยังมีป้ายประกาศเตือนการแต่งกายของสุภาพสตรีว่า “สุภาพสตรีแต่งตัวให้พอเหมาะกับสถานที่
วัดไม่ใช่สถานที่อวดเนื้ออวดหนังอวดกันไปทำไม มีด้วยกันทุกคน นุ่งเขินๆ นุ่งรัดตัว หมู่นี้กำลังมีนิสัยบ้าๆ อย่าลืมตัวจะไม่งามเลยไม่สมคารเข้าวัด” และอีกป้ายโปรดทราบวัดไม่ใช่สถานที่ ที่ท่องเที่ยวหรือทัศนาจร หากแต่เป็นที่ยึดเหนี่ยวน้ำใจของชาวพุทธทางด้านจิตใจเป็นสำคัญ”
ต่อมาผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อสอบถามจาก นายอู๊ด สนธิกา พ่อมัคทายกวัด ซึ่งได้ช่วยอธิบายสั้นๆ ว่า ป้ายข้อความที่ตั้งไว้อยู่บนศาลาวัดหลวงปู่ทุยท่านให้ติดตั้งไว้เป็นคำสั่งสอนเตือนสติญาติโยมที่มาวัดในเชิงให้ข้อคิดเป็นปริศนาธรรม ว่าพระที่วัดท่านมีความสงบพอเพียงแล้ว ถ้าหากจะทำบุญขอให้ไปทำบุญกับวัดที่พระท่านยังขาดแคลนหรือจะนำเงินไปสงเคราะห์ บิดามารดาผู้มีพระคุณก็จะได้บุญเหมือนกัน และอย่าเอาไฟฟ้าเข้าวัดพระท่านไม่มีความจำเป็นต้องการความเงียบสงบบำเพ็ญเพียรภาวนา ส่วนเรื่องที่ว่าป้ายหายไปไหนนั้น ก็น่าจะเป็นเพราะว่าช่วงที่คณะพระลูกศิษย์หลวงปู่ทุยที่มาจากนครพนมมากราบคารวะพบว่า เสาศาลาวัดซึ่งทำด้วยไม้มะค่าแต้มีปลวกมาอาศัยอยู่ด้านในกลางเสา จึงได้กราบเรียนขออนุญาตหลวงปู่เพื่อเปลี่ยนเสาศาลาใหม่ อาจจะนำไปเก็บไว้ก่อนเพื่อไม่ให้เกะกะกรีดขวางการทำงานของช่างก็เป็นได้ นี่คือเหตุผลของพ่ออู๊ด มัคทายกวัดให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับผู้สื่อข่าว.
บึงกาฬ//ข่าว : นิธิศักดิ์ เศรษฐแสงศรี
ไม่มีความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น