เมื่อวันที่ 21 ก.พ. ที่หอประชุมโรงเรียนปากคาดพิทยาคม อ.ปากคาด จ.บึงกาฬ นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ลงพื้นที่ Kick off เปิดโครงการสถานศึกษาปลอดภัยระดับภูมิภาค โดยมีนายสนิท ขาวสอาด ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ, นายสุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ, นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.), นางแว่นฟ้า ทองศรี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดบึงกาฬ พร้อมด้วยส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่ และเป็นสักขีพยานในการเปิดโครงการในครั้งนี้ ภายใต้มาตรการป้องกันโควิด- 19 อย่างเคร่งครัด
นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า สถานศึกษาปลอดภัย เป็นนโยบายที่เกิดขึ้นหลังเข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะที่ตนเป็นแม่คนหนึ่ง ซึ่งอยากให้สถานศึกษาเป็นบ้านหลังที่สองที่ปลอดภัย และอยากให้เด็กมีความสุขที่อยากมาโรงเรียน ดังนั้นการสร้างความปลอดภัยทั้งร่ายกาย จิตใจ จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งที่เพราะสถานศึกษาไม่ได้มอบความรู้และการศึกษาเท่านั้น แต่ต้องสร้างกำลังใจ กำลังกายที่เข้มแข็ง โดยกระทรวงศึกษาธิการได้มุ่งมั่นที่จะป้องกัน ปลูกฝัง ปราบปราม เพื่อให้เด็ก และเยาวชนปลอดจากภัยทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ ภัยที่เกิดจากการใช้ความรุนแรงของมนุษย์ ภัยที่เกิดจากอุบัติเหตุ ภัยที่เกิดจากการถูกละเมิดสิทธิ์ และภัยที่เกิดจากผลกระทบต่อสุขภาวะทางกายและจิตใจ ซึ่งจะทำให้เด็กและเยาวชนเติบโตอย่างมีคุณภาพ
สำหรับโครงการ “SAFE สถานศึกษาปลอดภัย” นั้น กระทรวงศึกษาธิการได้พัฒนาระบบการแจ้งเหตุความไม่ปลอดภัยขึ้น ใช้ชื่อว่าศูนย์ “MOE SAFETY CENTER” โดยใช้แพลตฟอร์มดิจิทัล เป็นแอปพลิเคชั่นในการแจ้งเหตุความไม่ปลอดภัย และได้พัฒนาบุคลากรทางการศึกษาในทุกสังกัดของ ศธ. ให้มีความรู้ มีความเข้าใจในการใช้งานระบบ เพื่อรับแจ้งเหตุความไม่ปลอดภัยที่มีผลต่อนักเรียน นักศึกษา ครู และบุคลากรทางการศึกษา รวมถึงให้ความสำคัญกับการอบรมครูผู้สอนให้มีความรู้ มีทักษะที่จะนำไปสื่อสารกับเด็กในวัยเรียน ด้วยการจัดทำโครงการพัฒนาและส่งเสริมการเรียนรู้ เพื่อสร้างความปลอดภัย แบบคู่ขนานกัน
โดยนักเรียนสามารถแจ้งเหตุได้ 4 ช่องทาง ดังนี้ ใน แอพพลิเคชั่น MOE SAFETY CENTER, www.MOESafetyCenter.com , LINE @MOESafetyCenter หรือที่ call center 0-2126-6565 ซึ่งจะเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่รวดเร็ว และช่วยให้เด็กสามารถโหลดและแจ้งเรื่องร้องเรียนถึงส่วนกลางได้โดยตรง จะทำให้ ศธ.สามารถแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที มีความเป็นธรรมและโปร่งใส นอกจากนี้ข้อมูลที่ได้รับแจ้ง จะกลายเป็น Big data ที่ทำให้กระทรวงศึกษาธิการทราบว่าอะไรที่เป็นปัญหาหลักได้รับการร้องเรียนมากที่สุด และหาทางแก้ไขปัญหาให้นักเรียนต่อไป
ภายในงานประกอบด้วย กิจกรรมการสาธิตการช่วยเหลือผู้ที่กำลังจะจมน้ำ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการได้ร่วมสาธิตการช่วยเหลือในครั้งนี้ด้วย นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงความคืบหน้าของแต่ละโรงเรียนในจังหวัดบึงกาฬเกี่ยวกับโครงการ SAFE สถานศึกษาปลอดภัย และภายใต้มาตรการป้องกันโควิด-19 ผู้เข้าร่วมงานทุกคนต้องผ่านการตรวจ ATK
บึงกาฬ//ข่าว : นิธิศักดิ์ เศรษฐแสงศรี
ไม่มีความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น